รัฐฟลอริดาของสหรัฐ ถือว่าโชคดีไม่น้อยที่ เฮอริเคน "เออร์มา" ลดระดับความรุนแรงลง ขณะเคลื่อนตัวเข้าถล่มพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงเป็นพายุที่มีกำลังแรง ทำให้เกิดน้ำท่วมตามท้องถนนสายต่าง ๆ ในเมืองไมอามี ต้นไม้และเสาไฟหักโค่น หลังคาบ้านเรือนปลิวว่อน บ้านเรือนและธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ ประมาณ 2.5 ล้านหลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้ ยังเกิดคลื่นซัดชายฝั่งสูงถึง 4.6 เมตร มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ หรือเอ็นเอชซี (NHC) ระบุว่า เออร์มา เคลื่อนตัวด้วยแรงลมสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลดความรุนแรงลงมาเหลืออยู่ที่ระดับ 3 จากระดับ 4 หลังเคลื่อนตัวออกจากคิวบา ถือเป็นเฮอริเคนกำลังแรงที่สุดเท่าที่เคยพบในมหาสมุทรแอตแลนติก คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 28 ราย ในแถบทะเลแคริบเบียน ขณะนี้คาดว่าจะถึงชายฝั่งด้านตะวันตกของฟลอริดาในช่วงบ่ายหรือเย็นวันนี้ และจะสร้างความเสียหายต่อฟลอริดาคิดเป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากฟลอริดาถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยก่อนหน้านี้ ทางการรัฐฟลอริดาสั่งอพยพประชาชนประมาณ 6.5 ล้านคน ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรของรัฐ
เมื่อวันอาทิตย์ เออร์มา ทำให้เกิดคลื่นสูง 11 เมตร ซัดถล่มธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ ตามชายฝั่งในกรุงฮาวานา ของคิวบา โรงแรมที่มีชื่อเสียง เช่นโคปาคาบานาถูกน้ำทะลักเข้าท่วม แม้เออร์มา ไม่ได้พัดเข้าถล่มกรุงฮาวานาโดยตรง แต่ก็ทำให้เกิดกระแสลมแรงและฝนตกหนัก น้ำท่วมสูง จากคลื่นยักษ์ที่ซัดข้ามกำแพงป้องกันคลื่น
ภาพความเสียหายที่เกิดขั้นในฟลอริดา
ภาพความเสียหายในคิวบา