จำนวนผู้เสียชีวิตจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในนครนิวยอร์ก เมืองใหญ่สุดของสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นผ่านหลัก 3,200 คน เมื่อวันอังคาร (7 เม.ย.) ทำให้จำนวนมากกว่าผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์วินาศกรรมสะเทือนโลก กลุ่มก่อการร้าย อัล-กออิดะห์ โจมตีอเมริกาครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 หรือที่เรียกกันว่า เหตุการณ์ นายน์-อีเลฟเว่น (9/11)
เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนิวยอร์ก เผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในนครนิวยอร์ก เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 3,202 คน มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายจี้บังคับเครื่องบินโดยสาร พุ่งชนอาคารแฝดทวิน ทาวเวอร์ ในนิวยอร์ก รวมทั้งอาคารกระทรวงกลาโหม หรือ เพนตากอน ในรัฐเวอร์จิเนีย ส่วนอีกลำตกลงกลางทุ่งในรัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนถึงเป้าหมาย ที่เชื่อว่าเป็นอาคารทำเนียบขาว หรืออาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 2,977 คน โดย 2,753 คนอยู่ในเขตนครนิวยอร์ก
นายแอนดรูว์ คูโอโม่ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะ ในเขตรัฐนิวยอร์กเพิ่มขึ้นอีก 731 คน ในระยะ 24 ชั่วโมงจนถึงวันอังคาร นับเป็นตัวเลขเสียชีวิตรายวันสูงสุดจนถึงขณะนี้ และทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วเขตรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 5,489 คน
แต่นายคูโอโม่กล่าวว่า รัฐนิวยอร์กเริ่มมีสัญญาณในทางบวก จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจำนวนผู้รับท่อช่วยหายใจ ลดลง บ่งชี้ว่ามาตรการที่ทางการบังคับประชาชน ให้รักษาระยะห่างทางสังคมในที่สาธารณะ ใช้ได้ผล
ส่วนสถานการณ์ทั่วประเทศสหรัฐ ล่าสุดจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12,021 คนและติดเชื้ออย่างน้อย 383,256 คน