รองโฆษก อสส.เผยสถิติฝ่าฝืนเคอร์ฟิวมากที่สุด ทุกคดีพนักงานอัยการมีคำขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก
เมื่อวันที่ 7 ้เม.ย.นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงภาพรวมทั้งประเทศในการดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตั้งแต่วันที่ 3-6 เม.ย.พบมีการฝ่าฝืนทั้งสิ้น 438 คดี จำนวนผู้ถูกดำเนินคดี 623 คน ซึ่งทุกคดีพนักงานอัยการได้มีคำขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก ซึ่งศาลได้ใช้ดุลยพินิจลงโทษจำเลยตามคำขอของพนักงานอัยการ เช่น ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ลงโทษจำคุก 2-4 เดือน โดยไม่รอการลงอาญา และ ศาลแขวงจังหวัดอุบลราชธานี จำคุก 15 วัน เปลี่ยนเป็นกักขังแทน 15 วัน ในสถานกักกันที่กรมราชทัณฑ์จัดเตรียมไว้โดยแยกส่วนกับนักโทษในคดีทั่วไป คดีที่มีการฝ่าฝืนมากที่สุด ได้แก่ การออกนอกเคหะสถาน 188 คดี ผู้ต้องหา 190 คน รองลงมาคือการมั่วสุมกัน โดยช่วงอายุที่กระทำผิดมากที่สุด อายุระหว่าง 20-35 ปี รองลงมาคือช่วงอายุระหว่าง 35-55 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่กระทรวงสาธารณสุขให้ระมัดระวังในการแพร่เชื้อ อย่างไรก็ตามทุกคดีพนักงานอัยการได้ส่งฟ้องศาลพิจารณาหมดแล้ว ทั้งนี้จำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจากผู้ที่ฝ่าฝืน ซึ่งจะช่วยให้ยับยั่งการแพร่ระบาดของโรวิด -19 ได้