พนักงานสอบสวนส่งสำนวนฟ้อง "ปิยบุตร-ช่อ-พิธา 5 ข้อหา อัยการนัดฟังคำสั่ง 15 เม.ย. ทนายเตรียมขอขยายเวลาเหตุสำนวนพนักงานสอบสวนยังไม่สมบูรณ์
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน นำสำนวนฟ้องคดีแฟลชม็อบเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562 ส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ เขต 5 (ปทุมวัน) หลังพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดีนี้จำนวน 8 คน โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาซึ่งประกอบด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 5 พรรคอนาคตใหม่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายธนวัฒน์ วงค์ไชย และ น.ส.ณัฏฐา มหัธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ส่งสำนวนฟ้องไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2563
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ระบุว่า พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ข้อหาคือ 1.ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง 2.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ 3.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ 4.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และ 5. ชุมนุมในรัศมีใกล้เขตพระราชฐาน 150 เมตร ซึ่งพนักงานอัยการนัดฟังคำคำสั่งคดีวันที่ 15 เม.ย. โดยจะทำเรื่องยื่นขอความเป็นธรรมเนื่องจากมองว่าพยานหลักฐานยังไม่ครบถ้วน
นายปิยบุตร กล่าวว่ายืนยันเดินหน้าสู้คดี มองว่าการดำเนินคดีครั้งนี้อาจเป็นกรณีตัวอย่างจุดเริ่มต้นในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะปี 2558 ที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่แต่งตั้งโดย คสช. เมื่อถึงสถานการณ์จริงแล้วมีการนำมาใช้บังคับมันมีปัญหาเกิดขึ้นจริง เพราะเป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและไม่อยากให้มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งเฉพาะบุคคล เพราะตนยังเชื่อในกระบวนการยุติธรรม หากแต่ต้องมีการปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้น
สำหรับประเด็นทางการเมืองก่อนหน้านี้ที่มีสื่อนำเสนอเกี่ยวกับเนื้อหาที่นายปิยบุตรจัดรายการ podcast ที่มีเนื้อความตำหนิเจ้าหน้าที่นั้น นายปิยบุตรกล่าวว่า หากฟังเนื้อหารายการทั้งหมดให้จบตลอด 35นาที ตนไม่ได้มีการตำหนิติเตียนการทำงานของเจ้าหน้าที่เลย มีเพียงวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาของรัฐบาลว่ามันมีข้อบกพร่องจริง เป็นการแก้ไขปัญหาให้ลักษณะวิ่งตามไปเรื่อยๆ เพราะมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลมีอำนาจมากขึ้น แก้ไขปัญหาน่าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย แต่ตรงกันข้ามกับการแก้ไขปัญหาลักษณะวิ่งตาม แต่อย่างไรก็ตามตนขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาลแก้ไขปัญหานี้จนผ่านพ้นไปด้วย ซึ่งตนเข้าใจว่าสถานการณ์ที่เจอมันหนักมากจริงๆ
ทั้งนี้นายปิยบุตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางคณะก้าวหน้าทั้งนายธนาธร น.ส.พรรณิการ์ และตน รวมถึงพรรคก้าวไกลและฝ่ายค้านเอง ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของรัฐบาลนั้น ก็มีแต่ความปรารถนาดี มีข้อเสนอแนะอะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะนำเสนอต่อๆไป อยากให้มองว่าข้อเสนอต่างๆหล่านั้นเป็นการทำงานร่วมกันเสียมากกว่า
นอกจากนี้ น.ส.พรรณิการ์ ยังได้รายงานความคืบหน้าในส่วนงานคณะก้าวหน้า ว่าขณะนี้ประเทศไทยไม่ได้เผชิญกับวิกฤตโควิด-19เพียงอย่างเดียว ยังมีวิกฤตไฟป่าของภาคเหนือที่เผชิญมากว่า1เดือน จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย มีค่าฝุ่นขึ้นสูงจนทำลายสถิติโลกหลายสิบครั้ง โดยคณะก้าวหน้าเองได้ประชาสัมพันธ์ระดมอาสาสมัครเพื่อช่วยส่งสิ่งของจำเป็นให้เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เมื่อคืนทางคณะก้าวหน้าได้เฟซบุ๊กไลฟ์ให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแสดงความจำนง รับเครื่องฟอกอากาศที่เราผลิตที่มีชื่อรุ่นว่า PM 001 โดยย่อมาจาก Progressive Movement 001 ซึ่งเป็นชื่อภาษาอังกฤษของคณะก้าวหน้า โดยเป็นการผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบกับปัญหาฝุ่นพิษในครั้งนี้ ทั้งนี้ ท่านที่อยู่ใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน สามารถส่งข้อความทาง inbox ทาง facebook ของเพจคณะก้าวหน้า เพื่อขอรับเครื่องกรองอากาศ PM 001 โดยพวกเราจะใช้อาสาสมัครประมาณ 200 คนช่วยกันแจกจ่าย เครื่อง PM 001 จำนวน 800 เครื่องนี้ เป็นการดำเนินการในขั้นแรก ซึ่งตนมีความมุ่งหวังว่าจะแจกจ่ายให้หมดภายในก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือวันที่ 13 เมษายน ที่จะถึงนี้