แม่ยกเปย์หนักทุ่มแบรนด์เนม "เต๋า ภูศิลป์" เปลือยใจเปรี้ยงปังเพราะเป็นสายมู ?

2020-04-07 13:00:27

แม่ยกเปย์หนักทุ่มแบรนด์เนม "เต๋า ภูศิลป์" เปลือยใจเปรี้ยงปังเพราะเป็นสายมู ?

Advertisement

หมอลำหน้าหล่อ "เต๋า ภูศิลป์" เปลือยหมดเปลือก ปังเพราะมูเตลู เผยแฟนคลับทุ่มเงินเปย์ แบรนด์เนม - นาฬิกาหลักล้าน!!!



"เต๋า ภูศิลป์" นักร้องหมอลำหน้าหล่อ พลังเสียงสะท้านทรวง เปิดใจเป็นสายมูสู่ความโด่งดังประสบความสำเร็จ ย้อนเล่าเผยเส้นทางการเป็นนักร้องหมอลำลูกทุ่ง สู่นักแสดงมืออาชีพ แถมมีแฟนคลับเปย์ของแบรนด์เนมหลักล้านอีกด้วย ผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง ONE31 ที่มี หนิง ปณิตา และซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร




สถานการณ์โควิดมีผลกระทบไหม ?
เต๋า : ก็มีครับผม คอนเสิร์ตที่เคยมี เคยรับไว้ก็เลื่อนไปก่อนแบบไม่มีกำหนด ที่มีมัดจำไว้ก็เลื่อนไป โดยที่ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตอนไหนแล้วค่อยไปร้องเพลงชดเชยให้เขา



ตอนนี้แคนเซิลไปทั้งหมดกี่งานแล้ว ?
เต๋า : 30-40 งาน จริงๆ เดือนเมษายนเป็นเดือนที่นักร้องลูกทุ่งกอบโกยเลย เพราะมีงานบุญบ้านต่างๆ มีสงกรานต์ ก่อนที่จะหน้าฝน

มูลค่าเท่าไหร่ ?
เต๋า : ก็เยอะอยู่ครับ แต่ก็เป็นกันทุกคน





เห็นว่าสถานการณ์โควิดทำให้เต๋าอยากกลับบ้านที่อุบลฯ แล้วไปทำมาหากินที่นั่นเลย ?
เต๋า : ใช่ครับ จริงๆ มันเป็นเหมือนการรีเซตระบบความคิดของคนเรา จากที่เคยทำแต่งานไม่เคยสนใจสิ่งแวดล้อมคนรอบข้าง ทุกวันนี้เราได้กลับมาอยู่กับตัวเอง โฟกัสสิ่งที่สำคัญในชีวิตเรา ควรจะมีภาระมากน้อยแค่ไหนชีวิตถึงจะอยู่ต่อไปได้ แล้วก็นึกถึงคนที่อยู่ที่บ้าน อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว แต่ตอนนี้กลับไปก็ไม่ได้ ก็กลัวจะเอาเชื้อไปติดเขา

เห็นบอกว่าที่บ้านก็มีกิจการ ?
เต๋า : ครับ ดูดส้วม ครับ ก็ทำมาตั้งแต่รุ่นปู่แล้วครับ ประมาณ 30 ปีแล้วที่อุบลราชธานี ก็มีผมเป็นลูกชายคนเดียวด้วย แต่ตอนนี้โชคดีได้เข้ามาทำงานในวงการ ได้ร้องเพลง ก็ทำมาหากินตรงนี้ไปก่อน





แล้วผันตัวมาเป็นนักร้องได้ยังไง ?
เต๋า : พอดีช่วงนั้นร้องเพลงลงในโซเชียล แล้วผู้บริหารของแกรมมี่ โกลด์ มาเห็นแล้วชักชวนให้มาเซ็นสัญญาให้เป็นนักร้องฝึกหัด

ก่อนที่มาเป็นนักร้องฝึกหัดเต๋ามาความเกี่ยวข้องอะไรกับพี่นาง ศิริพร ?
เต๋า : ก่อนที่ผมจะได้ออกอัลบั้ลชุดแรงในชีวิต ผมก็คิดว่าเป็นแค่นักร้องคนหนึ่งไม่คิดว่าจะได้ออกอัลบั้ม จนมาได้รู้จักกับแม่นาง แม่นางก็ให้โอกาสพาผมไปเรียนร้องเพลงที่บ้านแม่นาง ก็เรียน กินข้าว อยู่กับแม่เลย แล้วก็แม่ก็มาพูดกับนายให้





แสดงว่าจุดเริ่มก็มาจากแม่นาง ?
เต๋า : ใช่ครับ

ถ้าเจอพี่นาง พี่คิดว่าไม่ใช่แค่ไปเรียนร้องเพลง จะต้องมีสายมูมาเกี่ยว ?
เต๋า : ต้องบอกว่าเราก็เป็นคนที่นับถือพุทธศาสนา นับถือในกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เราก็หมั่นทำดีตลอด ที่ไหนดี ที่ไหนเด็ดเราก็ไป

วิธีมูยังไงให้เราประสบความสำเร็จ มีอะไรบ้างที่พี่นางพาไปมู ?
เต๋า : ส่วนใหญ่แม่พาไปเป็นวัด สถานที่ปฏิบัติธรรม แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็จะมีความคิดที่ว่าถ้าเราทำบุญไปเยอะๆ หมดเงินเป็นแสน เป็นล้าน แต่เราไม่เป็นคนดี มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเราอยู่แล้ว เราจะไปหวังผลในขณะที่เรายังทำชั่วอยู่ มันก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้น เราต้องคิดดี ทำดี แล้วเราจะมีสิ่งดีๆ ตามมา



ทราบข่าวว่าไปวัดที่ลาว ไปทำอะไร ยังไง ?
เต๋า : ก็ไปทำบุญนี่แหละครับ

ไปวัดที่ลาวยังไม่เด็ดเท่าอาบเทียนน้ำใต้แสงจันทร์ คืออะไร ?
เต๋า : มันเหมือนเป็นการอาบน้ำมนต์นี่แหละ นุ่งขาว ห่มขาว ดูฤกษ์ ช่วงไหนที่พระจันทร์เต็มดวงครูบาอาจารย์ก็พาทำ

แล้วหลังจากที่เราอาบน้ำใต้แสงจันทร์มีอะไรเกิดขึ้นกับเราบ้าง ?
เต๋า : คือบางทีสิ่งที่เราไม่คาดคิดว่าจะได้มาก็จะมีมาแบบงงๆ ครับ เอาจริงๆ ผมก็ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก แต่ก็จะมีงานเข้ามาโดยที่เราไม่รู้ และมันจะมีอย่างนี้อยู่ตลอด



สิ่งที่ปังที่สุด และประสบความสำเร็จที่เป็นเต๋าได้ทุกวันนี้คือหลังจากบวช ?
เต๋า : ครับ ก็ช่วงนั้นทำอัลบั้ม หลังจากที่แม่นางไปพูดกับนายให้ ตอนนั้นก็ทำอัลบั้มเสร็จแล้ว 10 เพลง เตรียมปล่อย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมจะบวชพอดี 24 จะเข้า 25 แบบเราจะบวช แล้วยังไง อัลบั้มก็จะวาง เราต้องอยู่ช่วยโปรโมตไหม ต้องอยู่ทำอัลบั้ม ไปออกรายการไหม อีกใจหนึ่ง เห้ย...เราเบญจเพส อยากบวช ผมก็เลยไปบวช ในขณะที่อัลบั้มจะยังไงก็ช่างมัน ขายดีไม่ดีไม่รู้ไปบวชก่อน แล้วพอหลังจากสึกมาเสร็จมันมีเพลงหนึ่งที่มาจากไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้เป็นเพลงในแผนโปรโมตเลย มันมีกระแสโดยที่เราไม่ได้คิดว่าจะเอาเพลงนี้เป็นเพลงหลัก

คิดว่ามีส่วนกับที่เราไปมูเตลูมาบ้างไหม ?
เต๋า : คิดว่ามีส่วนนะครับ คิดว่าปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เหนือสิ่งอื่นใดไปไหว้พระที่ไหนดังๆ เด็ดๆ ไม่เท่ากับการที่เราได้ปฏิบัติเอง ช่วงนั้นผมก็บวชด้วย พระก็ถือศีล 2 ร้อยกว่าข้อมันส่งผลหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่รู้ แต่มันเป็นสิ่งที่ดี



พระอาจารย์บอกว่าอย่าเพิ่งมีแฟน เกิดอะไรขึ้น ?
เต๋า : สืบเนื่องจากที่แม่นางศิริพรแนะนำให้ไปหาอาจารย์ ท่านก็เหมือนแนะนำเรา ถ้าเราอยู่ในวงการตอนนี้ให้เลือกงานกับแฟนให้เลือกงานไว้ก่อนนะ ถ้าจะมีแฟนก็ขอให้พ่อ แม่เราตายไปก่อนนะ ตอนนั้นเราก็คิดว่าทำไมแรงจังแต่ว่าผมมาคิดย้อนหลังเหมือนประมาณว่าถ้าเรามีแฟนเหมือนหลุดโฟกัส จะไม่โฟกัสเรื่องงานจะไปโฟกัสที่แฟน ครอบครัว พ่อ แม่เรา เราจะไม่ได้ส่งเงิน ดูแลท่านหรือเปล่า แต่หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้มีแฟน

แล้วที่ว่าแฟนคลับสายเปย์เป็นยังไง ?
เต๋า : ก็มีแฟนคลับเอ็นดูเรา ก็เป็นสิ่งที่ดี ก็ต้องขอบคุณมากๆ ผมจะอยู่ไม่ได้เลยถ้าไม่มีกำลังใจจากแฟนเพลง แฟนคลับ เขาก็ต้องมาดูแลเรา เอ็นดูเรา มีบางรายซื้อของเป็นนาฬิกา เสื้อผ้า เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมให้

เห็นบอกว่าที่เปย์หนักมากๆ เป็นหลักล้านเลย คือมีคนซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์ให้ ?
เต๋า : ใช่ครับ ก็เป็นแฟนครับคนจีน เขามาเมนต์ในไอจีของเราว่าอยากจะซื้ออัลบั้มของเธอซื้อได้ที่ไหน ผมก็ตอบเขาไปว่าสามารถซื้อได้ที่ตึกแกรมมี่นะ เขาก็แบบไม่เคยมีศิลปินคนไหนตอบเขาเลย เขาก็ปลื้มเรามาก แล้วหลังจากนั้น 14 กุมภาพันธ์ เขาบินมาจากจีน ผมก็ร้องเพลงบนเวที เขาก็ให้กล่องมากล่องหนึ่งเป็นกล่องเขียวๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอลงเวทีมาเปิดดูเห้ย เป็นนาฬิกา มีใบรับประกันก็ไปสืบราคาดูก็เยอะอยู่เหมือนกัน และหลังจากนั้นมาเขาก็มาเรื่อยๆ วันต่อมาผมมีงานที่หนองคาย เดือนนั้นไม่มีงานในกรุงเทพฯ เขาก็บินมาจากจีนมากรุงเทพฯ กรุงเทพฯไปอุดรฯ นั่งรถจากอุดรฯก็นั่งรถไปหนองคายเพื่อที่จะเอากระเป๋าแบรนด์เนมไปให้เรา



มีบอกเขาไหมว่าไม่เป็นไร เพราะราคามันสูงมาก ?
เต๋า : จริงๆ ผมบอกคนที่จะเอาเงินมาให้ผมทุกคน ผมเป็นคนขี้เกรงใจ ขอบคุณนะที่มาหากัน มาหากันก็เกรงใจมากแล้ว แต่นี้เขาเสียทั้งค่ารถ ค่าตั๋วเครื่องบิน เอาเงิน เอาทองมาให้เราอีก เรารู้สึกว่าเราเกรงใจเขา