รองโฆษก พปชร.ลุยพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-18 เห็นใจ “ปิยบุตร” อารมณ์ค้างปัญหาทางการเมือง ป้อง “บิ๊กตู่”กล้าหาญใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คิดเพื่อส่วนรวมชีวิตประชาชนต้องมาก่อน
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมทำความสะอาด หรือ “บิ๊กคลีนนิ่ง”พร้อมดำเนินการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่สาธารณะชุมชนเกื้อวิทยา ซ.เจริญนคร 48 เขตธนบุรี ร่วมกับเขตธนบุรี และ ชุมชนต่างๆ ในเขตจอมทอง ซึ่งส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐได้ลงพื้นที่ช่วยกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยความห่วงใยประชาชน โดยได้กำชับให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเองและทีมงานทุกครั้งในการลงพื้นที่ และถือโอกาสนี้รับข้อเรียนจากประชาชน เพื่อประสานงานไปยังรัฐบาลเพื่อให้มีการแก้ไขโดยเร่งด่วน ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ประชาชนมีความเข้าใจและร่วมมือปฏิบัติตามประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาล และต้องการให้สถานการณ์ยุติลงโดยเร็ว โดยพร้อมทำตามมาตการทุกอย่าง ขอให้จบโดยเร็วเท่านั้น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เท่าที่ติดตามข่าวยังพบกรณีที่มีการฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว ด้วยการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ซึ่งน่าเป็นห่วงปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเป็นความเข้าใจผิดว่า เยาวชนไม่มีความเสี่ยงของโรคนี้ จึงไม่อยากให้น้องๆเยาวชนประมาทในการใช้ชีวิต เพราะล่าสุดพบว่าผู้ที่เสียชีวิต 3 รายล่าสุด ผู้ที่อายุน้อยที่สุดคืออายุ 28 ปีเท่านั้น
รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า วิจารณ์การประกาศพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ว่าเป็นการรัฐประหารว่า น่าเห็นใจนายปิยบุตรที่ยังอารมณ์ค้างกับปัญหาทางการเมือง จนมองการแก้ไขปัญหาต่างๆในสถานการณ์ปัจจุบันในมิติทางการเมืองไปหมด การที่นายปิยบุตรอ้างว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้อำนาจกลับมารวมศูนย์ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สะท้อนถึงการยึดอำนาจนั้น เป็นการวิจารณ์ที่ยึดแต่ทฤษฎี โดยไม่ได้พิจารณาสถานการณ์ และข้อเท็จจริงในวิกฤตินั้นๆ ที่ต้องการภาวะผู้นำ สั่งการรวดเร็วเฉียบขาด และเป็นเอกภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที ซึ่งท่านนายกฯมีความกล้าหาญเอาตนเองเข้ามาเป็นแม้ทัพผู้รับผิดชอบ
“พล.อ.ประยุทธ์ คิดถึงส่วนรวมและความปลอดภัยของประชาชนมาก่อน แต่นายปิยบุตรกลับคิดแต่ในมุมได้เปรียบ เสียเปรียบทางการเมืองของบางคนบางกลุ่ม การแสดงความเห็นของนายปิยบุตรออกมาเช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำว่าประเทศไทยและประชาชนโชคดีที่นายปิยบุตรกับพวกไม่ได้เข้ามาสู่อำนาจรัฐ”รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
