“คุณหญิงสุดารัตน์” ซัด “บิ๊กตู่” มีอำนาจล้นฟ้าจาก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน แต่ยังออกมาตรการคุมโควิด-19 สะเปะสะปะ ไม่ชัดเจนครบถ้วน เปลี่ยนไปมา เหมือนเด็กเล่นขายของ ควบคุมการระบาดไม่ได้ ขอหยุดโทษประชาชนเพียงฝ่ายเดียว หันมาเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลอย่างเร่งด่วน ย้ำข้อเสนอฝ่ายค้านนำไปทำแล้วสำเร็จ ประชาชนจะสรรเสริญชื่นชมรัฐบาล
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย(พท.) โพสต์ข้อความผ่านเพจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ sudarat keyuraphan ระบุว่า อีกนานเท่าไหร่ เราจึงจะควบคุมการระบาดให้สยบลงได้ และประชาชนจะต้องหยุดทำมาหากินอีกนานเท่าไหร่ ถ้าประสิทธิภาพการทำงานของรัฐยังเป็นเช่นนี้ และมาตรการยังออกมา สะเปะสะปะ ไม่ตรงจุดครบถ้วน ปิดประเทศ ปิดการทำมาหากินของประชาชน โดยไม่ค้นหาผู้ติดเชื้อ แล้วนำออกจากสังคมไปรักษา หรือไปกักตัวเฝ้าดูอาการในระบบ สยบโรคระบาดไม่ได้หรอกค่ะ หัวใจหลักคือ ต้องให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจ COVID-19 ฟรี ให้ได้มากที่สุด
วันนี้ครบ 16 วัน ที่มีการสั่งปิดกิจการห้างร้านต่างๆ ในกรุงเทพฯ โดยไม่มีมาตรการใดๆ รองรับ ทำให้คนแตกตื่นกลับไปต่างจังหวัดกว่าแสนคน ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินปิดหลายจังหวัด ตั้งด่าน สั่งเคอร์ฟิว แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งทั้ง กทม. และต่างจังหวัดไปกว่า 2,000 รายแล้ว และยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
มีอำนาจล้นฟ้าจาก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน แต่ก็ยังออกมาตรการที่สะเปะสะปะ ไม่ชัดเจนครบถ้วน เปลี่ยนไปมา เหมือนเด็กเล่นขายของ ผลคือ ควบคุมการระบาดไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าจะควบคุมได้เมื่อไหร่
อุปกรณ์การแพทย์ยังคงขาดแคลนอย่างหนัก จน รพ.ต่างๆ ต้องมาขอรับบริจาค ยังตอบไม่ได้ว่า จะปิดเมือง ปิดการทำมาหากินของประชาชน ไปอีกนานแค่ไหน จะห้ามหรือชะลอคนไทยกลับบ้าน จะห้ามแบบไหน ชะลอยังไง ไม่ชัด
ดิฉันและพรรคเพื่อไทยได้เสนอ "ยุทธการ 21 วัน สยบ COVID" มาตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.ถ้ารัฐบาลทำตาม ตั้งแต่วันนั้น ป่านนี้เราคงควบคุมการระบาดให้สยบลงได้แล้วในระดับหนึ่ง โปรดฟังชัด ๆ อีกครั้งนะคะว่า หลักการง่าย ๆ ของการควบคุมการระบาดของโรค มีอยู่ 2 ประการคือ 1.ป้องกันผู้ติดเชื้อใหม่ ไม่ให้เข้าประเทศ โดยห้ามการเดินทางเข้าประเทศ หรือกักตัว 14 วัน โดยเช่าโรงแรมให้อยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งควรทำมาตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว แต่ก็ปล่อยให้เละเทะมาถึงวันนี้ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวานก่อน 2. ค้นหาผู้ติดเชื้อในประเทศให้ได้มากที่สุด และเร็วที่สุด โดยใช้กลไกสาธารณสุข และมหาดไทย ปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อทุกหมู่บ้าน ผู้ติดเชื้อที่ป่วยรีบส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ส่วนผู้ติดเชื้อที่มีอาการป่วยน้อยใช้โรงแรมเป็นที่กักตัว เฝ้าดูอาการจนหายดี ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว จึงให้กลับบ้าน
หัวใจหลักคือ ต้องให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจ COVID-19 ฟรี ให้ได้มากที่สุด วิธีนี้หลายประเทศทำสำเร็จ สยบการระบาดได้ จนประชาชนกลับมาทำมาหากินกันได้ทั้งจีน, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ แม้แต่ Bill Gates ก็เพิ่งเสนอว่า การเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุดเท่านั้น จึงจะสยบการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เช่นกัน
ปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้คือ เรื่องชุดตรวจที่มีข่าวทุจริต และต้องทะลวงคอขวดของระบบราชการ ให้นำเข้าชุดตรวจให้ได้เร็วที่สุด รวมทั้งมีมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลในประเทศที่มีการพัฒนาชุดตรวจได้ ก็ให้รีบสนับสนุนงบโดยด่วน ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดโทษประชาชนเพียงฝ่ายเดียว แล้วหันมาเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลอย่างเร่งด่วน ยิ่งช้าคนป่วยยิ่งมากขึ้น จนเกินกว่าที่ระบบสาธารณสุขของไทย และแพทย์จะรับมือไหว ยิ่งช้าเศรษฐกิจปากท้องจะพังพินาศ คนไทยจะยากลำบาก จนไม่ว่ารัฐบาลจะ”กู้เงิน”มามากแค่ไหน ก็ไม่อาจจะทำให้เศรษฐกิจกลับมาดีได้
ข้อเสนอนี้ เป็นข้อเสนอด้วยความปรารถนาดีของเรา ที่ต้องการให้ประชาชน และประเทศชาติรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ เป็นข้อเสนอจากประสบการณ์ของเรา ในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ (Emerging Disease) อย่างโรค SARS และไข้หวัดนก ซึ่งดิฉันเชื่อมั่นในความสามารถของระบบสาธารณสุขของประเทศไทย และความสามารถของคณะแพทย์ พยาบาล จึงมั่นใจว่า ถ้าฝ่ายนโยบายได้กำหนดนโยบายได้ถูกต้อง และสนับสนุนการทำงานของแพทย์อย่างเต็มที่ เราจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ภายในเร็ววัน และจะสามารถลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ของเราลงได้ โปรดอย่าคิดว่า เป็นข้อเสนอของฝ่ายค้าน แล้วนายกฯ ฟังไม่ได้ ถ้ารัฐบาลนำไปทำ แล้วสำเร็จ ประชาชนจะสรรเสริญชื่นชมรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้านค่ะ