นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด ชั้นนำของรัฐบาลจีน ทำนายว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ที่กำลังลุกลามสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก จะถึง “จุดเปลี่ยน” อ่อนแรงลง ในปลายเดือน เม.ย.นี้
เป็นการทำนายของ ดร.จง หนานซาน นักวิทยาการระบาดชาวจีน วัย 83 ปี หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้ง ให้ต่อสู้กับวิกฤติด้านสาธารณสุข การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเขตมหานครปักกิ่ง
ดร.จง ซึ่งกล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เซินเจิ้น ยังทำนายอีกว่า จีนจะไม่มีการระบาดใหญ่ระลอก 2 ของเชื้อไวรัสโคโรนา เนื่องจากระบบเฝ้าระวังที่ทรงพลังถูกวางไว้

ดร.จง กล่าวว่า การต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งแพร่เชื้อได้รวดเร็ว และมีอัตราการเสียชีวิตสูง มีอยู่ 2 วิธีคือ วิธีแรก ควบคุมอัตราการติดเชื้อให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด หยุดยั้งการแพร่เชื้อ จากนั้นก็รอเวลาให้มันหมดฤทธิ์ และวิธีที่สอง หน่วงเหนี่ยวการแพร่เชื้อ และลดจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ ด้วยวิธีการบางอย่าง
จากการที่หลายประเทศทั่วโลก ดำเนินมาตรการต่อสู้อย่างแข็งขัน ดร.จงประเมินว่า ประมาณสิ้นเดือน เม.ย.นี้ จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใหม่ จะลดลง พร้อมกับปฏิเสธคำกล่าวอ้างของผู้เชี่ยวชาญบางส่วน ที่ระบุว่าจีนกำลังจะเผชิญกับการระบาดใหญ่ระลอก 2 ของเชื้อไวรัสโคโรนา จากพาหะเงียบ (silent carrier) หรือผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ เนื่องจากไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่า ผู้ติดเชื้อไร้อาการมีอัตราการแพร่เชื้อสูง
จากกระแสความหวาดกลัวในจีน เกี่ยวกับผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว จะกลับมาติดเชื้อใหม่อีก และนำความเสี่ยงมาสู่ชุมชน ดร.จง กล่าวว่า โอกาสที่ผู้ป่วยรักษาหายแล้ว จะติดเชื้ออีก “มีน้อย” เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มีสารภูมิต้านทานในร่างกาย และถึงแม้จะมีการตรวจพบติดเชื้อใหม่อีกครั้ง แต่อัตราการแพร่เชื้อจากกลุ่มคนเหล่านี้ จะอยู่ในระดับต่ำ เพราะจากการศึกษาวิจัยพบว่า ไม่มีเชื้อไวรัสที่มีชีวิต สามารถเจริญเติบโตได้ ในเซลส์ตัวอย่างของผู้ที่เคยติดเชื้อมาแล้ว