พลมืองของ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู ที่เดินทางไปเยือนต่างแดน และเจอมาตรการปิดเขตแดนของประเทศต่างๆ จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้วประมาณ 350,000 คน แต่ยังเหลืออีกประมาณ 250,000 คนที่ยังกลับไม่ได้ รวมถึงบางส่วนที่ติดค้างในประเทศที่ยากลำบากที่สุด
ที่ผ่านมาองค์กรบริหารที่สำนักงานใหญ่อียู ในกรุงบัสเซลส์ เบลเยี่ยม ได้พยายามช่วยเหลือบรรดาชาติสมาชิก และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ใช่สมาชิก รวมถึง อังกฤษ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ นำพาพลเมืองกลับบ้านด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หลังจากตั๋วโดยสารเครื่องบินขากลับ ของนักเดินทางเหล่านี้ ถูกยกเลิก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอียู ได้ตั้งคณะทำงานพิเศษ เพื่อรับพลเมืองติดค้างในต่างแดนกลับบ้าน หลังจากสายการบินโดยสารพาณิชย์ทั่วโลก ยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก ท่ามกลางการจำกัดการเดินทาง และจำนวนผู้โดยสารลดน้อยลงมาก จนไม่สามารถออกบินให้บริการได้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียูรายหนึ่ง เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (2 เม.ย.) ว่า นับตั้งแต่วิกฤติไวรัสโควิด-19 เริ่มขึ้น มีพลเมืองอียูร้องขอความช่วยเหลือนำพากลับบ้านประมาณ 600,000 คน โดยร้องผ่านสถานทูตหรือสำนักงานผู้แทนอียู ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ซึ่งจนถึงขณะนี้สามารถช่วยเหลือนำกลับบ้านได้แล้ว ประมาณ 350,000 คน ยังเหลืออยู่อีกประมาณ 250,000 คน โดยบางส่วนของจำนวนนี้ติดค้างอยุ่ในกลุ่มประเทศที่ยากลำบากในการอพยพเคลื่อนย้าย.