ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 51,000 คนแล้วจนถึงวันพฤหัสบดี และรักษาหายมากกว่า 208,000 คน ซึ่งมากกว่า 75,000 คนอยู่ในจีน ขณะที่ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีการระบาดอย่างเลวร้ายมีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในโลก ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตในสเปนและอิตาลี ก็พุ่งสูงต่อเนื่อง
นักวิจัยประจำศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมระบบของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ มหาวิทยาลัยชื่อดังทางการแพทย์ในสหรัฐ ซึ่งเก็บรวบรวมสถิติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก แถลงว่า อิตาลียังเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลกจำนวน 13,915 คน ตามมาด้วยสเปน ส่วนสหรัฐมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก กว่า 236,300 คน
ตั้งแต่ไวรัสถูกพบระบาดครั้งแรกในจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว กระตุ้นให้รัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลกสั่งปิดห้างร้านธุรกิจ, สายการบินระงับการให้บริการ และประชาชนหลายล้านคนต้องอยู่กับบ้าน เพื่อพยายามชะลอการติดเชื้อไวรัส
มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ระบุด้วยว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ใช้เวลาประมาณ 55 วัน มีผู้ติดเชื้อ 1 แสนคนแรก และ 500,000 รายแรกใน 76 วัน แต่กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 2 เท่า เป็น 1 ล้านคนภายในอีก 8 วันต่อมา หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเกือบ 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้ออยู่ในสหรัฐ ขณะที่ยุโรปมีผู้ติดเชื้อประมาณครึ่งหนึ่ง
การระบาดทั้งในสหรัฐและยุโรป ยังหนักหนาสาหัส โดยเมื่อวันพฤหัสบดี รัฐบาลสเปนแถลงว่า มีผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีกถึง 950 คนในช่วง 24 ชั่วโมง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นสถิติผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในวันเดียวเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ส่งผลให้สเปนมีผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 10,000 คน โดยผู้เสียชีวิตรวมทั่วประเทศ อยู่ที่ 10,348 คน ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในสเปนก็เพิ่มไม่หยุด จาก 102,136 คน เมื่อวันพุธ เป็น 110,238 คน หรือ 8 เปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ขณะนี้การระบาดของไวรัสเข้าสู่ระดับสูงสุดแล้ว และคาดว่าจะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงในอีกไม่กี่วันนี้
ท่ามกลางมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลทั่วโลกนำมาใช้เพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัสอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก โดยรัฐบาลสหรัฐแถลงว่า มีประชาชนลงชื่อรับสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ตกงานรายใหม่รายสัปดาห์ สูงเป็นประวัติการณ์ 6.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากสัปดาห์ก่อน และคาดว่าจะสูงขึ้นอีก ส่วนสเปน ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากอิตาลี มีประชาชนตกงานแล้วเกือบ 900,000 คน
สำหรับอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อ รวมทั้งประเทศ 115,242 คน และเสียชีวิตแล้ว 13,915 คน
ส่วนการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในฝรั่งเศส ยังรุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดวันพฤหัสบดี ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นเกือบ 5,400 คนแล้ว หลังจากกระทรวงสาธารณสุขเริ่มเก็บรวบรวมข้อมูลผู้เสียชีวิตตามบ้านพักคนชราหลายแห่ง โดยนายเฌอโรม ซาโลมอน หัวหน้าสำนักงานสาธารณสุขของฝรั่งเศส แถลงว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 จนถึงวันพฤหัสบดี มีผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 4,503 คน เพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ จาก 4,032 คน เมื่อวันก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 884 คน ในบ้านพักคนชรา ทำให้ผู้เสียชีวิตในฝรั่งเศส เพิ่มเป็นทั้งสิ้น 5,398 คนแล้ว เพิ่มขึ้น 1,355 คน จากตัวเลขเมื่อวันพุธ อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสยังไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลจากบ้านพักคนชรากว่า 7,400 แห่งทั่วประเทศได้ทั้งหมด
ในสหราชอาณาจักร รัฐมนตรีสาธารณสุข ให้คำมั่นว่า จะเพิ่มการตรวจหาเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่า ให้ได้ 100,000 คนในแต่ละวันภายในสิ้นเดือนนี้ จากตัวเลขปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10,000 คนต่อวัน หลังจากรัฐบาลถูกโจมตีอย่างหนักว่าล้มเหลวในการตรวจหาเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งประชาชนทั่วไป โดยนายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ซึ่งปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากหายจากการติดเชื้อไวรัสและสิ้นสุดการกักตัว ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19