กักตัวรองนายกเทศมนตรีหัวหิน-กู้ภัย ร่วมตรวจผู้เสียชีวิตโควิด-19

2020-04-02 15:20:36

กักตัวรองนายกเทศมนตรีหัวหิน-กู้ภัย ร่วมตรวจผู้เสียชีวิตโควิด-19

Advertisement

กักตัวรองนายกเทศมนตรีเทศบาลหัวหิน เจ้าหน้าที่กู้ภัย หลังร่วมตรวจสอบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 บนโบกี้รถไฟ

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีชาว จ.นราธิวาส อายุ 57 ปี เสียชีวิตบนรถไฟสายใต้ก่อนถึงสถานีรถไฟทับสะแก ต่อมาตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยก่อนหน้านั้นขบวนรถไฟดังกล่าวจอดรับผู้โดยสารที่สถานีรถไฟหัวหินเมื่อคืนวันที่ 30 มี.ค. หลังรับแจ้งว่ามีผู้ป่วยหนัก ผู้บริหารเทศบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมตรวจสอบเพื่อดูอาการป่วยในเบื้องต้นที่โบกี้ที่ 4 ขบวนบางชื่อ-สุไหงโกลก ต่อมาเมื่อทราบว่าผู้ป่วยรายนี้เสียชีวิตจากผลพิสูจน์ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดได้แจ้งให้ นายมนตรี ชูภู่ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลหัวหินและเจ้าหน้าที่อีก 2 คน จากกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมทำการกักตัว 14 วันเพื่อดูอาการและนำสารคัดหลั่งไปตรวจหาเชื้อ แม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลยังคงปฏิบัติงานเพื่อบริการประชาชนในวันและเวลาราชการตามปกติ รวมทั้งการพ่นยาฆ่าเชื้อในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทุกแห่งอย่างต่อเนื่อง


ด้าน นายเสียวเง็ก จิรวัฒนาพร ประธานมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน อ.ทับสะแก เปิดเผยว่า จากกรณีชาว จ.นราธิวาส อายุ 57 ปี เสียชีวิตบนรถไฟสายใต้ก่อนถึงสถานีรถไฟทับสะแก ต่อมาตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิฯเข้าไปร่วมชันสูตรศพในเบื้องต้นร่วมกับเจ้าหน้าที่ รพ.ทับสะแก ล่าสุดทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวน 14 รายถูกสั่งกักตัวที่มูลนิธิเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. เป็นต้นไป โดยมูลนิธิฯได้ปิดประตูทางเข้าออกทั้งหมดพร้อมงดเยี่ยมอาสาทั้ง 14 ราย สำหรับประชาชนที่ต้องการมอบอาหารและสิ่งของช่วยเหลือขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปรับสิ่งของจากภายนอก ส่วนการให้กำลังใจขอให้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของมูลนิธิฯ ทั้งนี้ขอแจ้งงดเก็บศพหรือช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ผู้ป่วย และกิจกรรมอื่นที่ประชาชนขอความช่วยเหลือเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะสิ้นสุดการกักตัวในช่วงกลางเดือนเม.ย.นี้


"ขอเรียนว่าการทำหน้าที่ของจิตอาสาเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่มีผลตอบแทนใดๆ ต้องทำงาน 24 ชม. การเดินทางเข้าไปช่วยเหลือในวันเกิดเหตุหลังพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อ เนื่องจากได้รับแจ้งทางวิทยุจากศูนย์สั่งการ 1669 ว่าพบผู้เสียชีวิตเนื่องจากมีอาการเป็นลมหมดสติในโบกี้รถไฟจึงไปตรวจสอบโดยสวมชุดกู้ภัยปกติ มีเพียงหน้ากากอนามัยและสวมถุงมือยาง เนื่องจากไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นผู้ติดเชื้อ และก่อนหน้านี้มูลนิธิฯได้แจ้งขอให้ทางราชการช่วยสนับสนุนชุดป้องกัน PPE หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ แอลกอฮอร์ แล้วแต่ไม่ได้รับความสนใจ หลังจากนี้หากมูลนิธิฯเปิดรับบริการตามปกติ ก็จะต้องเปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาและใช้เงินส่วนตัวจัดซื้อเพื่อป้องกันตัวเอง” นายเสียวเง็ก กล่าว