ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ พุ่งกิน 5,000 รายแล้ว ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ขยับเข้าใกล้ 1 ล้านคนแล้ว ขณะนี้อยู่ที่ 938,373 ราย และเสียชีวิตมากกว่า 47,000 ราย
โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 884 ราย ซึ่งเป็นสถิติใหม่ รวมผู้เสียชีวิตทั้งประเทศ 5,137 ราย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ที่ตามเก็บข้อมูลการระบาดของไวรัสไปทั่วโลก เหยื่อกลุ่มรายล่าสุดนี้ รวมทั้งเด็กชายวัย 6 สัปดาห์ด้วยคนหนึ่ง ส่วนผู้ติดเชื้อในสหรัฐขณะนี้ อยู่ที่มากกว่า 216,000 ราย สูงที่สุดในโลก
ขณะที่ อุปกรณ์ป้องกันและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่สำรองไว้ก็ใกล้หมดแล้ว ทำให้ทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลของแต่ละรัฐ ต้องแข่งกันหาอุปกรณ์ความปลอดภัย ขณะที่ ความต้องการจำนวนมากที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นำไปสู่การถือโอกาสค้ากำไรเกินควร ซึ่งหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่า ยังสามารถจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้อย่างเพียงพอ และมีงบประมาณอยู่ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการดำเนินการจัดหา แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต่างแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ปกป้องที่ไม่เพียงพอ เช่นหน้ากากอนามัยและเสื้อคลุม รวมทั้งเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งมีความจำเป็นเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายใจสะดวก
ขณะเดียวกัน รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ เตือนว่า สหรัฐดูเหมือนจะอยู่บนเส้นทางคล้ายกับอิตาลี ที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วมากกว่า 13,000 ราย ซึ่งเลวร้ายที่สุดในโลก โดยจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วสหรัฐ เพิ่มขึ้นมากกว่า 25,000 รายต่อวัน พื้นที่ที่เลวร้ายที่สุดคือนิวยอร์ก ซิตี้ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเกือบ 47,500 ราย และเสียชีวิตมากกว่า 1,300 ราย
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า อาจมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มากถึง 240,000 รายในสหรัฐ แม้ว่าจะมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาบังคับใช้กับประชาชนก็ตาม ซึ่งในรัฐคอนเนตทิคัต มีเด็กชายวัย 6 สัปดาห์เสียชีวิตจากไวรัสมรณะ เชื่อว่าเป็นเหยื่อที่มีอายุน้อยที่สุดในอเมริกาจนถึงขณะนี้