สหรัฐมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 แซงหน้าจีนแล้ว เพิ่มขึ้นเป็น 3,873 รายแล้ว ขณะที่ ผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่มากกว่า 188,000 ราย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เตือนสหรัฐจะเผชิญหน้ากับ “ความเจ็บปวด” และ “ความยากลำบาก” ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ที่คาดว่าอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่เขาขยายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปอีก 30 วัน จนถึงวันที่ 30 เมษายน ซึ่งแม้ปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดแล้ว ก็อาจมีชาวอเมริกันเสียชีวิตมากกว่า 100,000 ราย และสูงถึง 240,000 รายจากเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าชาวอเมริกันเสียชีวิตในช่วงสงครามเวียดนามด้วย
นับเป็นการส่งคำเตือนที่แข็งกร้าวจากประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเคยปฏิเสธความรุนแรงของไวรัสอยู่นานหลายสัปดาห์และยังถูกตั้งคำถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐ
ทรัมป์ไม่ได้ลดขนาดสิ่งที่จะกลายเป็นวิกฤตสุขภาพครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีระหว่างแถลงต่อเนื่องนานกว่า 2 ชั่วโมงเมื่อวันอังคาร นอกจากนี้ เขายังได้แนะนำชาวอเมริกันว่า วันที่มืดมิดกว่ายังมาไม่ถึง
ทรัมป์กล่าวว่า เขาต้องการให้ชาวอเมริกันทุกคนเตรียมตัวรับวันที่ยากลำบากที่รออยู่ข้างหน้า เราจะต้องผ่าน 2 สัปดาห์ที่หนักหนาสาหัสนี้ไปให้ได้
จนถึงวันพุธนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งแซงหน้าจีนแล้ว และเป็นประเทศที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงที่สุดในโลก โดยในจีน มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสร้าย 3,309 ราย ขณะที่ ขณะนี้ในสหรัฐมีผู้สังเวยชีวิตให้กับไวรัสแล้ว 3,873 ราย ตามข้อมูลล่าสุดของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ มหาวิทยาลัยทางการแพทย์ชื่อดังของสหรัฐ ที่เกาะติดและเก็บสถิติการระบาดของไวรัสโควิด-19
เมื่อวันอังคารวันเดียว สหรัฐตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีกมากกว่า 12,000 ราย รวมตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วประเทศทั้งสิ้นขณะนี้อยู่ที่ 188,172 ราย