“คุณหญิงสุดารัตน์” แนะนายกฯใช้อำนาจล้นฟ้า แก้ไขปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ได้
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเพจคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ระบุว่า งบกลาโหมห้ามแตะ ภัยคุกคามของโลก ได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่มติ ครม.ของประเทศไทยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในการอนุมัติงบประมาณปี 64 ยังคงวนเวียนอยู่ในกรอบเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ นอกจากงบประมาณปีนี้ที่นายกฯ ยังไม่ยอมสั่งให้ทุกกระทรวงตัดงบที่ไม่จำเป็น อย่างการซื้ออาวุธ, การสร้างตึกใหม่, ซื้อรถใหม่ ฯลฯ เรื่องที่น่าเป็นห่วง และชี้ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ผู้นำคือ มติ ครม.เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกฯ ยังไฟเขียว กรอบงบประมาณปี 64 โดยตัดงบกระทรวงกลาโหมแบบขอไปทีเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ (คงเหลือไว้ 99.9 เปอร์เซ็นต์)
เมื่อวานดิฉันได้เสนอมาตรการที่ควรทำเร่งด่วนลำดับแรก เมื่อรัฐบาลตัดสินใจประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือเรื่องการแก้ปัญหาอุปกรณ์การแพทย์ขาดแคลนให้กับนักรบด่านหน้า ทั้งแพทย์, พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่นๆ โดยเร่งจ่ายงบกลางที่กองอยู่ที่นายกฯ เป็นแสนล้าน กระจายให้ทุกโรงพยาบาล วันนี้เป็นวันที่ 5 ของการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินแล้ว ขอย้ำอีกครั้ง “นายกฯ ต้องใช้อำนาจล้นฟ้าที่มี แก้ไขปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ได้” ค่ะ จะรออะไรอีกคะ เงินก็มี อำนาจก็มาก
ทุกคนได้ยิน IO ของรัฐบาลในทุกช่องทาง ที่พยายามจะบอกให้ประชาชนเชื่อว่า “อุปกรณ์เพียงพอ” แต่ข้อเท็จจริงคือ แต่ละโรงพยาบาลต่างออกมาเรียกร้องว่า อุปกรณ์การแพทย์ขาดแคลน และต้องขอรับบริจาคกันแทบทุกโรงพยาบาล ถ้าเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์แค่นี้ นายกฯ ไทยแก้ไขอะไรไม่ได้ แล้วจะรวบอำนาจไว้กับตัวเพื่ออะไร? หรือพูดง่ายๆชัดๆว่า #เราจะมีนายกไว้ทำอะไร? นายกฯ ไม่คิดจะใช้อำนาจที่มีมาแก้ปัญหาให้หมอและประชาชนบ้างหรือ ??ขณะนี้ ภัยคุกคามของโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว มนุษย์ทั้งโลกรวมถึงคนไทยทั้งประเทศ กำลังถูกคุกคามและเสียชีวิตจากเชื้อไวรัส เชื้อโรคตัวเล็กๆ ที่ใช้รถถัง หรือเรือดำน้ำไปปราบไม่ได้ นายกตื่นได้แล้ว
ผู้นำประเทศ ควรเข้าใจว่า วิกฤตโควิด และ AfterShock ของมันนั้น จะกระทบชีวิตและเศรษฐกิจไทยอย่างแสนสาหัส การตั้งงบประมาณประเทศ ต้องสอดคล้องกับวิกฤตสำคัญที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น งบประมาณปี 63 และปี 64 ควรตัดงบที่ไม่จำเป็นทั้งหมด และนำเงินมาใช้ในส่วนที่จะแก้ผลกระทบต่อเนื่องจากวิกฤตโควิด โดยต้องช่วยพยุงเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนให้ได้เป็นลำดับแรก
นายกฯ ควรเร่งพิจารณาข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ในการปรับเปลี่ยนงบประมาณปี 63, 64 ใหม่ อย่างเร่งด่วน 1. งบกลางที่กองอยู่ในมือนายกฯ เป็นแสนล้าน รีบนำมาใช้ในการระงับการระบาดของ COVID-19 อย่างเร่งด่วนที่สุด อย่าปล่อยให้มีการติดเชื้อวันละเป็นร้อยคนเช่นนี้อีกต่อไป และกระจายงบและกระจายอำนาจการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ไปให้ทุกโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน 2.ตัดงบประมาณปี 63 ของทุกกระทรวงที่มีความจำเป็นเร่งด่วนน้อยกว่าการแก้ปัญหาโควิด-19 โดยให้เลื่อนการใช้เงินออกไปก่อน ตั้งเป้าตัดให้ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำมาใช้ในการแก้ปัญหาCOVID-19 อย่างบูรณาการ และนำเงินส่วนที่เหลือมาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ COVID-19 ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้ เบื้องต้น 5000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ทั้งลูกจ้าง, พ่อค้าแม่ค้า, อาชีพอิสระอื่นๆ ตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย3. ขอให้นายกฯ นำกรอบการพิจารณางบปี 64 เข้าไปพิจารณาในครม.ใหม่ เพื่อปรับลดงบที่ไม่จำเป็นทุกกระทรวงออก ตั้งเป้าอย่างน้อยกระทรวงละ 10-15 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำเงินมาแก้ผลกระทบทางเศรษฐกิจของ COVID-19 ในปีหน้า
ส่วนเรื่องเงินกู้ที่รัฐบาลกำลังจะออกกฎหมายมากู้เงิน ขอให้ใจเย็นๆ ต้องกู้แน่ค่ะ แต่ต้องกู้มาเพื่อใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังการระบาดของ COVID-19 ซึ่งต้องใช้เงินอีกหลายแสนล้านค่ะ ตอนนี้เร่งใช้งบกลางและเร่งตัดงบปี 63,64 ที่ไม่จำเป็นออกก่อนค่ะขอย้ำว่า ยุทโธปกรณ์เพื่อใช้ในการสู้รบราคาแพงทั้งหลาย เรือดำน้ำ, รถถัง ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคที่กำลังเป็นภัยคุกคามประเทศไทยของเราได้ อาจเทียบไม่ได้กับแมสเพียงแผ่นเดียว หรือชุด PPE เพียงชุดเดียว ให้กับคุณหมอของเราในเวลานี้ค่ะปรับปรุงการใช้งบประมาณเสียใหม่ ใช้เงินให้ตรงกับความจำเป็นเร่งด่วน แก้ไขวิกฤตประเทศให้ได้ พี่น้องประชาชนตลอดจนพรรคฝ่ายค้าน จะสนับสนุนให้ท่านทำงานค่ะ พล.อ.ประยุทธ์