พบมือดีรื้อแผงกั้นจุดคัดกรองโควิด-19 ตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ หลังเจ้าหน้าที่ขึงเชือกทำแนวกั้นจุดคัดกรองคนที่เดินเข้าออกป้องกันการแพร่เชื้อ เผยเหตุเกิดถึง 2 ครั้ง ล่าสุด จนท.ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบเป็นผู้ประกอบการแผงจำหน่ายในตลาดเอง สั่งปิดแผงไปแล้ว 1 ราย
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 30 มี.ค. นายวิรยุทธ เดชอรุณ ผู้จัดการตลาดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แผงกั้นบริเวณด้านหลังอาคารตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ หลังรับแจ้งว่า มือดีรื้อแผงคัดกรองออก และดึงเชือกกันจนขาด ทำให้มีผู้คนเดินเข้าไปตลาดสดได้โดยไม่ผ่านจุดคัดกรอง สร้างความตื่นกลัวแก่ประชาชนที่มาเดินจับจ่ายใช้สอยภายในตลาดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่เป็นอย่างมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบภาพจาก กล้องวงจรปิด พบว่า มีผู้ประกอบการในตลาดเป็น 2 ราย เป็นคนก่อเหตุ รวม 2 ครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 26มี.ค.63 และครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นเตรียมสั่งปิดแผงผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย เนื่องจากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ 
นายวิรยุทธ กล่าวว่า ภายหลังจากที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ในพื้นที่ จ.กระบี่ ต่อเนื่อง ทางเทศบาลเมืองกระบี่ จึงได้มีการตั้งจุดคัดกรองทางเข้าออกอาคารตลาดมหาราช ให้สามารถเข้าออกได้เพียงช่องทางเดียว เพื่อให้ผ่านจุดสแกนอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลฆ่าเชื้อ และทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว แต่ปรากฏว่า มีการรื้อแผงกั้นด้านหลังอาคารออก และมีการดึงเชือกกั้นรอบอาคารจนขาด ทำให้ประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดสดมหาราช เกิดความไม่สบายใจ เพราะบางคนก็เข้ามาโดยไม่ผ่านจุดคัดกรอง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากสอบกล้องวงจรปิดปรากฏว่ามีผู้ประกอบการ 2 ราย มารื้อแผงออกไป โดยรายแรกมารื้อในช่วงเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่ 26 มี.ค.63 และและวันที่ 29 มี.ค.63 ซึ่งเหตุเกิดในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อนำรถเข้ามาจอดลงสินค้า จนสร้างความเสียหาย ซึ่งในเบื้องต้นทางผู้ประกอบ 1 ราย ได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่แล้ว และให้การรับสารภาพ จึงไม่ได้แจ้งความ แต่ได้สั่งปิดแผงไปแล้วเป็นเวลา 14 วัน เพื่อเป็นการลงโทษผู้ที่กระทำการดังกล่าว ส่วนอีกรายอยู่ระหว่างดำเนินการ
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ข้อมูลจาก สนง.สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2563 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อแล้ว 8 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 190 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ 162 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 20 ราย