นายสกลธี ภัทธิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า กรุงเทพมหานคร ว่า ได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กอ.รมน.กทม. และกองทัพบก ตั้งด่านตรวจคัดกรอง 12 แห่ง ตลอด 24 ชม. ตามเส้นทางเชื่อมกับจังหวัดปริมณฑล เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบด้วย
1. ถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณสะพานข้ามแยกคลองประปา เชื่อมนนทบุรีกับปทุมธานี
2. ถนนสุวินทวงศ์ บริเวณใต้ด่วนมหานคร เชื่อมฉะเชิงเทรา
3. ถนนสุขุมวิท บริเวณ BTS แบริ่ง เชื่อมสมุทรปราการ
4. ถนนสุขสวัสดิ์ ใต้สะพานภูมิพล เชื่อมสมุทรปราการ
5. ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ซอย 39 เชื่อมสมุทรสาคร
6. ถนนราชพฤกษ์ บริเวณหน้าศูนย์โตโยต้า พื้นที่ตลิ่งชัน เชื่อมสมุทรสาคร กับนนทบุรี
7. ถนนพระราม 2 ซอยพระราม 2 ซอย 92 เชื่อมสมุทรสาคร
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งด่านตรวจเพิ่มอีก 5 จุด เริ่มวันที่ 27 มี.ค. 63 เวลา 08.00 น.
8. ถนนเพชรเกษม สน.หนองแขม เขตรอยต่อนครปฐม
9. ถนนบางนาตราด สน.บางนา เขตรอยต่อสมุทรปราการ
10. ยกระดับบูรพาวิถี ด่านบางจาก ขาเข้า สน.ทางด่วน 1 กก.2 บก.จร. เขตรอยต่อสมุทรปราการ
11. ถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณอนุสรณ์สถาน สน.วิภาวดี กก.2 บก.จร. เขตรอยต่อปทุมธานี
12. ยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ด่านอนุสรณ์สถาน สน.วิภาวดี กก.2 บก.จร. เขตรอยต่อปทุมธานี
สำหรับมาตรการในการเรียกตรวจคัดกรองประชาชนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีการสังเกตประชาชนที่อยู่ภายในรถรวมถึงรถโดยสารประจำทาง หากบุคคลใดเข้าข่ายต้องสงสัยจะมีการเรียกให้เข้ามาสอบสวนโรคทันที ดังนั้นหากประชาชนจะเดินทางออกจากบ้าน ขอให้เตรียมบัตรประชาชนให้พร้อม สวมหน้ากากอนามัย พกเจลล้างมือ และเผื่อเวลาการเดินทางด้วย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการยืนยันว่าจะมีการใช้กิริยาและวาจาที่สุภาพ พร้อมชี้แจงวัตถุประสงค์ในการตรวจคัดกรองให้ประชาชนรับทราบ มีการบันทึกภาพผู้ขับขี่ และผู้โดยสารตลอดเวลา โดยจะให้กระทบกับการจราจรให้น้อยที่สุด ซึ่งประชาชนที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางให้อยู่บ้าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5ปี หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต , งดเว้น การเดินทางข้ามจังหวัด หากจำเป็นจะต้องได้รับการตรวงคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด