รถบรรทุกทหารลำเลียงโลงศพผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ออกจากโบสถ์แห่งหนึ่งในภาคเหนือของอิตาลีเมื่อวันพุธ เพื่อนำไปฌาปนกิจ ขณะที่ ทางการอิตาลีพยายามอย่างหนักในการรับมือกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน โลงศพแน่นโบสถ์ในเมืองเซรีอาเต ห่างจากตอนใต้ของเมืองแบร์กาโม ประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ไวรัสระบาดหนักที่สุด
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา กองทัพต้องรับผิดชอบในการขนย้ายโลงศพจากโบสถ์หลายแห่งในแคว้นลอมบาร์ดีเพื่อนำไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่สามารถเผาศพได้ ซึ่งถือเป็นภาพที่น่าสลดหดหู่มากสำหรับผู้พบเห็น
ด้านสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของอิตาลี แถลงข่าวรายวันเมื่อวันพุธว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 683 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ต่ำกว่า 743 รายเมื่อวันอังคาร แต่ก็สูงกว่าเมื่อ 2 วันก่อน และสูงสุดเป็นอันดับ 3 จากสถิติรายวัน ตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในแคว้นลอมบาร์ดี ภาคเหนือของประเทศในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขณะนี้ อิตาลีมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะมากที่สุดในโลก โดยล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 7,503 ราย จากการระบาดเพียงเดือนเดียว สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 74,386 ราย จาก 69,176 รายเมื่อวันอังคาร ซึ่งตัวเลขการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ คิดเป็น 7.5 เปอร์เซ็นต์ ต่ำสุดตั้งแต่เริ่มต้นการระบาด แต่ก็ตรวจพบผู้ป่วยอาการหนัก และนายอังเกโล บอร์เรลลี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของอิตาลี กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า จำนวนที่แท้จริงของผู้ติดเชื้อ บางทีอาจสูงกว่าตัวเลขขณะนี้ ถึง 10 เท่า ซึ่งนั่นก็หมายความว่า อาจมีถึง 700,000 ราย
แคว้นลอมบาร์ดี ที่มีการระบาดหนักที่สุด สถานการณ์เริ่มดีขึ้น เมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตและติดเชื้อรายใหม่ ลดลงอย่างมากเมื่อวันพุธ เพิ่มความหวังว่า การระบาดในลอมบาร์ดี ศูนย์กลางการระบาด อาจช้าลง อย่างไรก็ตาม ก็มีสัญญาณเตือนจากทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งขณะนี้ยังมีการระบาดและเสียชีวิตน้อยมาก แต่ก็กำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน และอาจทำลายระบบการบริการสาธารณสุขได้ เนื่องจากทางภาคใต้ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์มากกว่าในภาคเหนือ ที่มีฐานะร่ำรวยกว่า ขณะที่ความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นว่า ไวรัสร้ายจะระบาดลงไปภาคใต้ของประเทศ
จนถึงขณะนี้ แคว้นคัมปาเนีย ที่มีการระบาดเลวร้ายที่สุดในภาคใต้ของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 74 ราย ส่วนลาซิโอ ภาคกลาง ใกล้กรุงโรม เมืองหลวง มีผู้เสียชีวิต 95 ราย
อิตาลีปิดประเทศเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และเศรษฐกิจของประเทศก็ย่ำแย่อย่างหนัก นายกรัฐมนตรีจุซเซปเป คอนเต ให้คำมั่นเมื่อวันพุธว่า จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 ในเดือนเมษายนนี้ มูลค่าอย่างน้อย 25,000 ล้านยูโร หรือกว่า 890,000 ล้านบาท เท่ากับมาตรการแรกที่เขาออกมาในเดือนมีนาคม
นายคอนเต ซึ่งคะแนนนิยมของเขาพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เรียกร้องให้ฝ่ายค้าน สนับสนุนความพยายามของรัฐบาล และหยุดการโจมตีการบริหารจัดการวิกฤตไวรัสของเขา จนกว่าสถานการณ์จะยุติลง เขากล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาว่า เวลานี้เป็นช่วงเวลาของการลงมือปฏิบัติและความรับผิดชอบ
นายคอนเตได้รับเสียงปรบมือทำลายความเงียบของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ หลังเขาแสดงความเสียใจต่อเหยื่อในวิกฤตไวรัสมรณะ โดยเขากล่าวต่อสภาที่แทบจะว่างเปล่า ซึ่งส.ส.ต้องจัดที่นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 จุดชนวนให้เกิดวิกฤตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอิตาลีและยุโรป ซึ่งทำให้ประเทศของเราเจอบททดสอบที่หินมาก เราไม่เคยคิดเลยว่า ในประเทศของเรา เราจะได้เห็นขบวนรถบรรทุกทหารขนโลงศพของเพื่อนร่วมชาติออกไปหาที่เผา มันเป็นความเจ็บปวดอย่างมาก