ราชทัณฑ์แจงผู้ต้องขัง 1 รายติดโควิด-19 จากเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุม เผยมีต้องขังอีก 3 รายเข้าข่ายต้องสงสัย รอผลตรวจยืนยัน
เมื่อวันที่ 25 มี.ค.พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่าพบผู้ป่วยเพิ่ม 107 คน รวมผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยทั้งสิ้น จำนวน 934 คน รวมถึงมีผู้ต้องขังติดเชื้อในพื้นที่หลายจังหวัด นั้น กรมราชทัณฑ์ขอชี้แจง ดังนี้ 1. เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 กรมราชทัณฑ์ได้รับฝากผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์รายหนึ่งจากกรมคุมประพฤติ ซึ่งถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ จึงได้ควบคุมตัวไว้ ณ สถานที่เพื่อรอการตรวจพิสูจน์(บริเวณข้างเรือนจำกลางคลองเปรม) ต่อมาวันที่ 20 มี.ค. 2563 เจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้เข้ามาตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์รายดังกล่าว เนื่องจากการสอบสวนโรคพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมติดเชื้อโควิด-19 ต่อมากรมควบคุมโรคได้ยืนยันว่า ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์รายดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ประสานงานกับกรมคุมประพฤติ ขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวและได้นำส่งโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี เพื่อทำการบำบัดรักษาตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 2563 แล้ว
2. เรือนจำกลางราชบุรี พบผู้ต้องขังรายหนี่งเข้าข่ายต้องสงสัยตรวจคัดกรองเบื้องต้นผลเป็นบวก ต้องรอการตรวจยืนยันผลอีกครั้งในวันที่ 26 มี.ค.
3. เรือนจำจังหวัดสระบุรีและเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา จากการสอบสวนโรคโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พบว่ามีผู้ต้องขังแห่งละ 1 ราย เข้าข่ายต้องสงสัย เนื่องจากมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดเชื้อ) จึงได้ส่งตัวไปสังเกตอาการ รอการตรวจสอบน่าจะทราบผลในวันที่ 26 มี.ค.
4. ส่วนเรือนจำกลางเพชรบุรีและเรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี ยังไม่พบผู้ต้องขังรายใดเข้าข่ายต้องสงสัย น่าจะเป็นความคลาดเคลื่อนของข่าว
”กรมราชทัณฑ์ ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากกระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรค โดยได้มีการให้ความรู้และร่วมกันวางมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรค รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านการรักษา อาทิเช่น การคัดกรอง แยก กักกัน ผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายการ งดการเยี่ยมญาติ งดการออกทำงานฝึกวิชาชีพในสถานประกอบการนอกเรือนจำ เป็นต้น จึงใคร่ขอให้พี่น้องประชาชนที่มีญาติมิตรอยู่ในเรือนจำต่างๆ อย่าได้วิตกกังวล เนื่องจากกรมราชทัณฑ์ได้วางมาตรการป้องกันไว้อย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ต้องขังกว่า 380,000 ราย และเจ้าหน้าที่กว่า 13,000 คน ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว และได้มี การตั้งวอร์รูมที่กรมราชทัณฑ์ รายงานติดตามสถานการณ์ทุกวัน”พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าว