เลื่อน! สืบพยานคดีดัง ทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอน

2020-03-24 15:30:59

เลื่อน! สืบพยานคดีดัง ทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอน

Advertisement

เลื่อนคดีดัง!! “เทพไท เสนพงศ์” เฮลั่นหลังศาลสั่งเลื่อนคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอน-“ พิชัย บุณยเกียรติ”โจทก์ในคดีจี้ “เทพไท” ลาออกจาก ส.ส.

“เทพไท เสนพงศ์” เฮศาลสั่งเลื่อนคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอน-“ พิชัย บุณยเกียรติ”โจทก์ในคดีจี้เทพไท ลาออกจาก ส.ส เพื่อเป็นบรรทัดฐานหลังชอบเรียกร้องให้คนอื่นลาออกจากกรณีพัวพันหน้ากากอนามัยล่องหน -ตอกกลับไม่ดูตัวเองต้องคดีร้ายแรงแต่กลับไม่ลาออก

จากกรณีคดีมหากาพย์โกงการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งนายพิชัย บุญยเกียรติ อดีต สว.และอดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชิณวรณ์ บุญยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยื่นฟ้องนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์นครศรีธรรมราช และอดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราชเมื่อปี 2557  ซึ่งเป็นคดีที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 ปี ซึ่งหลังจากที่ทางจำเลยขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์และจำเลยมาหลายครั้ง จนล่าสุดศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในระหว่างวันที่ 25-27 มี.ค. 2563 ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องมาแล้วนั้น




เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 24 มี.ค. นายพิชัย บุณยเกียรติโจทก์พร้อมทนายและนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 นายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 พร้อมทนายจำเลย ได้เดินทางมาศาล แต่ทนายจำเลยทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์ออกไป โดยจำเลยที่ 2 แถลงว่าประสงค์จะมาฟังการพิจารณาคดีและเบิกความของพยานโจทก์ทุกปากด้วยตนเอง ไม่ประสงค์ให้ศาลพิจารณาลับหลัง จึงขอให้ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานหลังพ้นสมัยประชุมสภาสมัยสามัญประจำปี 2563 ซึ่งจะเปิดประชุมตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2563 ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่ได้แถลงต่อศาลแต่อย่างใด

“ทนายโจทก์แถลงว่าหากรอให้พ้นสมัยประชุมสภา จะทำให้คดีโจทก์ล้าทั้งการปิดสมัยประชุมจะต้องขอมติจากที่ประชุมก่อน ซึ่งยังกำหนดแน่นอนไม่ได้ จึงขอให้ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานโดยเร็ว ศาลจึงสอบจำเลยที่ 2 ว่าหากศาลกำหนดนัดในระหว่างสมัยประชุมสภาทุกวันศุกร์เพียง 4 ศุกร์ รวม 4 นัด ตามกำหนดนัดเดิม จะไม่กระทบต่อการทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาของจำเลยที่ 2 จะขัดข้องหรือไม่ หากนัดไหนตรงกันวัดนัดประชุมของจำเลยที่ 2 ศาลจะพิจารณาคดีลับหลังจำเลยที่ 2 จะขัดข้องหรือไม่ จำเลยที่ 2 แถลงว่าไม่ขัดข้อง แต่หากวันนัดไหนที่จำเลยที่ 2 จะต้องเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร หรือรัฐสภา หรือกรรมาธิการที่จำเลยที่ 2 เป็นประธานกรรมาธิการแล้วจำเลยที่ 2 จะให้ทนายจำเลยที่ 2 แถลงให้ศาลทราบเพื่อพิจารณาคดีลับหลังเฉพาะนัดนั้นต่อไป ซึ่งนายโจทก์แถลงว่าไม่ขัดข้องหากศาลจะนัดสืบพยานทุกวันศุกร์”



ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเมื่อจำเลยที่ 2 ประสงค์จะเข้ารับหลังการพิจารณาคดี ซึ่งเป็นสิทธิที่จะกระทำได้โดยชอบ แต่หากกำหนดนัดสืบพยานหลังพ้นสมัยประชุมสภา ตามที่จำเลยที่ 2 แถลง ก็อาจจะทำให้คดีล่าช้าขึ้นอีก อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนพฤษภาคมและเมษายน 2563 เชื่อว่ายังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 อยู่อย่างกว้างขวาง จึงเห็นควรนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งสองทุกวันศุกร์หลังสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 สอบทนายโจทก์ ทนายจำเลยที่ 1 และทนายจำเลยที่ 2 แล้วแถลงว่ามีวันว่างตรงกันในวันศกร์ที่ 12,19 และ 26 มิถุนายน 2563 และวันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.00-16030 น.ทั้ง 4 นัด หากวันใดตรงกับวันที่จำเลยที่ 2 ต้องเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร รัฐสภา หรือคณะกรรมาธิการ ก็ให้จำเลยที่ 2 หรือทนายตวามจำเลยที่ 2 แถลงให้ศาลทราบเพื่อจะได้พิจารณาคดีลับหลังเฉพาะในวันนัดสืบพยานนัดนั้น ๆ ต่อไป หากไม่แถลงให้ศาลทราบภายในกำหนดวันนัด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ศาลจะมีคำสั่งพิจารณาคดีลับหลังจำเลยที่ 2 ต่อไปทันที ทั้งนี้เนื่องจากคดีนี้มีการเลื่อนการพิจารณาด้วยเหตุขัดข้องของจำเลยที่ 2 มาครั้งหนึ่งแล้ว จึงกำชับจำเลยทั้งสองว่า ศาลจะใช้ดุลพินิจในการเลื่อนคดีอย่างเคร่งครัด

นายพิชัย บุณยเกียรติ เปิดเผยว่า ตนขอขอบคุณศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมที่พิจารณาให้ความเป็นธรรมในกระบวนการอย่างเคร่งครัด แม้จำเลยที่ 2 จะพยายามเตะถ่วงคดีให้ล่าช้าออกไปจนถึงเดือนกันยายน 2563 โดยอ้างว่าข้อกำหนดของการออกระเบียบของประธานศาลฎีกา ในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งในเองนี้ตนในฐานโจทก์ให้ความร่วมมือกับศาลและรัฐบาลอย่างเต็มที่ แต่การที่จำเลยที่ 2 อ้างติดประสภาฯจะขอเลื่อนไปจนถึงเดือนกันยายน 2563 นั้น ตนและทนายโจทก์เห็นว่าล่าช้าเกินไปและให้ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดวันพิจารษสืบพยานโจทก์ พยานจำเลยโดยเร็ว ในที่สุดศาลได้กำหนดนัดพิจารณานัดสืบพยาน ในที่สุดศาลได้กำหนดสืบพยานในทุกวันศุกร์ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12,19 และ 26 มิถุนายน 2563 และวันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.00-16030 น.ทั้ง 4 นัด

“โดยตนได้รับทราบข่าวไม่ดีเกี่ยวกับความพยายามจะเข้าไปดำเนินการใด ๆ กับพยานโจทก์ อาจจะถึงขั้นข่มขู่ คุกคาม ซึ่งตนไม่ได้กล่าวหาจำเลยว่ากระทำดังกล่าว แต่หากมีการข่มขู่คุกคามพยานโจทก์จริงตนจะจึงคำร้องต่อศาลเพื่อขอคุ้มครองพยานโจทก์ตามระเบียบขั้นตอนต่อไป”



นายพิชัย บุยเกียรติ ยังกล่าวถึงข้อเรียกร้องที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เรียกร้องให้บุคลากรของพรรคประชาธิปัตย์ที่เกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัยลาออกนั้นเป็นการเรียกร้องที่ให้เหตุผลนั่งพูดคนเดียวให้เหตุผลคนเดียว ไม่ได้ฉลาดหรือแสดงปัญญาให้กับสังคมเป็นการพูดไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งไปเรียกร้องให้คนอื่นมีสปิริตลาออกเนื่องจากมีข้อครหา โดยคนที่เรียกร้องลืมไปว่าศาลได้ประทับรับฟ้องตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตการเลือกตั้งร่วมกันกระทำความผิดทั้งจำเลยที่ 1 และ 2 เป็นข้อหาที่หนัก ถ้าตามวิสัยที่ชอบเรียกร้องคนอื่นตัวเองต้องรีบลาออกเป็นบรรทัดฐานไม่ใช่ไปเรียกร้องคนอื่น ในขณะที่ตนเองไม่ดูแล สร้างสิ่งที่ดีงามให้คนอื่นจะเอาบรรทัดฐานมาจากไหน การเป็นนักการเมืองต้องเป็นตวอย่างที่ดีในทุก ๆ เรื่องตั้งแต่การแต่งกาย การพูด การกระทำเพื่อให้เกิดบรรทัดฐานที่ดีแห่สังคมและประชาชน ตนจึงขอเรียกร้องให้นายเทพไท เสนพงศ์ รีบลาออกโดยเร็วเพื่อเป็นบรรทัดฐานเป็นนักการเมืองต้นแบบในทางที่ดี” นายพิชัยกล่าว