“จุรินทร์”เป็นห่วงคนไทยในสถานการณ์โควิด-19 สั่งพาณิชย์เปิด 3 มาตรการพิเศษ กระจายสินค้าอุปโภคบริโภค ส่งประชาชนถึงบ้าน
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ แถลงภายการประชุมร่วมหาแนวทางและมาตรการรองรับสถานการณ์โควิด-19 ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า วันนี้มีการประชุมข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องของสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆในภาวะที่สถานการณ์โควิด-19 มีการแพร่กระจายในระดับที่ได้มีมาตรการยกระดับขึ้น โดยเฉพาะใน กทม.และปริมณฑล สำหรับสินค้าบริโภคอุปโภคต่างๆนั้น ฝ่ายการผลิตที่สำคัญก็คือกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนในเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ต้องกำกับดูแลในเรื่องของราคาและช่องทางของการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภค ซึ่งต้องมีการประสานงานกันโดยใกล้ชิด สำหรับในเรื่องของการดำเนินการกระจายสินค้าเพื่อที่จะดูแลพี่น้องประชาชนผู้บริโภค โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีมาตรการเป็นพิเศษ เช่น กทม.ได้มีการหาข้อสรุปว่าจะเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมได้อย่างไร กล่าวคือ ประเด็นที่ 1 คือ การที่จะทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือว่าร้านค้าต่างๆสามารถได้รับสินค้าจากโกดังได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น เพื่อให้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคก็มีความเห็นว่าจะให้มีการยืดหยุ่นกฎระเบียบต่างๆในเรื่องของการขนส่งและการลำเลียงสินค้าจากโกดังไปยัง หน่วยจำหน่ายปลีกต่างๆทั่วทั้ง กทม.และปริมณฑล
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 จะเร่งส่งเสริมการให้บริการถึงบ้าน คือ ระบบ delivery ซึ่งขณะนี้มีอยู่ ประเด็นที่สาม ส่วนที่ได้มีการดำเนินการในระบบตลาด ส่วนที่ 1 สำหรับระบบค้าส่งต่างๆได้มีการใช้ระบบส่งถึงบ้านและมีการเพิ่มปริมาณและศักยภาพมากขึ้น เช่น แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี เซเว่น-อีเลฟเว่น เป็นต้น ส่วนที่ 2 การให้บริการส่งอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังบ้านโดยระบบโลจิสติกส์ ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า GET lalamove ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ จะช่วยสนับสนุนให้สามารถดำเนินการในการเพิ่มศักยภาพได้มากขึ้นต่อไป ส่วนที่ 3 เรื่องของร้านโชห่วย กระทรวงพาณิชย์เข้าไปช่วยกำกับดูแล ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเข้าไปช่วยเพิ่มศักยภาพให้โชห่วยสามารถให้บริการส่งสินค้าไปยังที่บ้าน เนื่องจากว่าหากมีการใช้มาตรการเข้มข้นเพิ่มขึ้นในหลายจังหวัดความจำเป็นที่จะต้องส่งสินค้าและบริการไปที่บ้านจะมีมากขึ้น ซึ่งจะเร่งดำเนินการที่จะเป็นตัวเสริมอีกตัว
รมว.พาณิชย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นในส่วนของกรมการค้าภายในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป สำหรับในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก็จะมีการจัดรถคาราวานธงฟ้าสู้ภัยโควิดจำนวนเริ่มต้น 200 คัน ที่จะไปให้บริการสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาประหยัด และที่จำเป็นสำหรับพี่น้องประชาชนที่จะต้องพักอยู่ที่บ้านทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑลและจะเพิ่มจำนวนขึ้นถัดจากนี้ไป สำหรับประเด็นการกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคหรือว่าการกระทำความผิดในเรื่องของการฉวยโอกาสเอาเปรียบขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ตนได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านอุปโภคบริโภคขึ้น 2 คณะ โดยคณะที่หนึ่งเป็นการดำเนินการในระดับประเทศซึ่งได้รับความเห็นชอบซึ่งได้แจ้งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ทราบแล้ว มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามการทำผิดกฏหมายที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการด้านอุปโภคบริโภคทั้งหมด เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมในช่วงสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คณะที่ 2 ในระดับจังหวัดจะประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานคณะทำงาน มีภารกิจเช่นเดียวกันกับในระดับประเทศ
“สำหรับในวันที่ 25 มี.ค. จะได้เชิญประชุม กรอ. พาณิชย์ เพื่อประเมินสถานการณ์โควิดร่วมกันทั้งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน นั้นก็คือหอการค้าสภาหอการค้าสภาอุตสาหกรรมสมาคมธนาคารไทย และสมาคมผู้ขนส่งสินค้าท่าเรือและอื่นๆที่เกี่ยวข้องว่าในส่วนของการผลิตการกระจายสินค้าต่างๆในประเทศการส่งออกควรจะได้มีการกำหนดแนวทางร่วมกันอย่างไรเพื่อให้เราผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้อย่างดีที่สุด” รมว.พาณิชย์ กล่าว