“มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค”พบร้านค้าออนไลน์ ฉวยโอกาสโขกราคา “หน้ากากอนามัย” ตั้งแต่ชิ้นละ 12 -200 บาท ขอให้ร้านค้าทั่วประเทศทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ระงับการขายหน้ากากอนามัยแบบทั่วไปทันที เพื่อช่วยสำรองให้บุคลากรทางการแพทย์ไว้ใช้งานต่อสู้กับโควิด – 19
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) ได้นำเสนอผลการเฝ้าระวังการขายหน้ากากอนามัยเกินราคาในแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ อีมาร์เก็ตเพลส (E - Marketplace) พบว่า ปัจจุบันยังคงมีการจำหน่ายหน้ากากอนามัย เกินราคาทั้งหมด 23 ร้านค้า ราคาเฉลี่ย ตั้งแต่ชิ้นละ 12 บาท ถึงราคาชิ้นละ 200 บาท ทั้งนี้ทาง มพบ. ได้ส่งลิงก์ของร้านค้าที่มีลักษณะกระทำการที่เข้าข่ายผิดกฎหมายให้กับทางแพลตฟอร์ม จากนั้นจะมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องต่อไป อย่างไรก็ตาม หากร้านค้าใดไม่สามารถจำหน่ายตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดให้ คือ 2.50 บาทได้ ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ควรต้องระงับการขายโดยทันที ถ้ายังอนุญาตให้ร้านค้าจำหน่ายได้โดยไม่ได้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดจะถือว่ามีความผิดด้วย ดังนั้น จึงขอให้แพลตฟอร์มระงับการจำหน่ายของทุกร้านภายใน 24 ชม.
นอกจากนี้ จากการเช็คพิกัดร้านค้าขายหน้ากากอนามัยผ่านเว็บไซต์ https://maskmapthai.web.app/ เว็บไซต์ที่แสดงข้อมูลจำนวนและราคาหน้ากากอนามัย โดยสามารถดูราคาต่อชิ้นของแต่ละร้านและจำนวนหน้ากากที่มีในร้านนั้น ๆ ได้ ยังพบอีกว่า มีร้านค้าทั่วประเทศจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา ซึ่งช่วงเวลาแห่งความท้าทายในการรับมือกับโควิด - 19 ดังนั้น มพบ. จึงขอเสนอไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มว่าห้ามขายหน้ากากอนามัยแบบทั่วไป (Surgical Mask) ที่ทำขึ้นด้วยแผ่นใยสังเคราะห์ (Non - Woven Fabric) และควรเก็บหน้ากากอนามัยแบบทั่วไปไว้ให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้งานมากกว่า เพราะบุคคลเหล่านี้มีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคหรืออยู่ใกล้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้ง่าย จึงจำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วทิ้งเลย ส่วนบุคคลทั่วไปสามารถเปลี่ยนมาใช้หน้ากากผ้าได้ ซึ่งสามารถซักให้สะอาดและนำกลับมาใช้งานซ้ำได้
ทั้งนี้ ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ในข้อหาจำหน่ายเกินราคาควบคุมจะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และในข้อหาจำหน่ายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท อีกทั้ง หากเป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายก็ต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายใน หากฝ่าฝืนจะมีความผิดซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ด้วย หากพบเห็นผู้กระทำผิด โปรดแจ้งข้อมูลและหลักฐานมายัง สายด่วน 1569 หรือสื่อโซเชียลมีเดียของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์