ศาลญี่ปุ่นในเมืองโยโกฮามะ มีคำพิพากษาเมื่อวันจันทร์ (16 มี.ค.) ให้ลงโทษประหารชีวิต ด้วยการแขวนคอ นายซาโตชิ อูเอะมัตสึ จำเลยวัย 30 ปี จากความผิดฐานฆาตกรรม ใช้อาวุธมีดสังหารผู้พิการทางสมอง 19 ศพ เมื่อปี พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ฆ่าหมู่ครั้งเลวร้ายสุดของประเทศ นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
คดีนี้นายอูเอะมัตสึให้การรับสารภาพว่า เขาใช้มีดไล่แทงไม่เลือกหน้า ในสถานสงเคราะห์คนพิการ เมืองซากามิฮาระ ใกล้เมืองโยโกฮามะ ทางใต้ของกรุงโตเกียว ที่เขาเคยทำงานอยู่ ทำให้ผู้พิการทางสมองเสียชีวิต 19 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 26 คน โดยเหยื่อจำนวนมากถูกแทงขณะที่ยังนอนหลับ
นายอูเอะมัตสึให้การต่อศาลแขวงโยโกฮามะ ในระหว่างการพิจารณาคดี เมื่อเดือนที่แล้วว่า ผู้ที่ไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่น ๆ ได้ ถือเป็นภาระของสังคม ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ การกระทำของเขาเป็นสิ่งที่ดี เพื่อช่วยเหลือสังคม
ในระหว่างการอ่านคำพิพากษาเมื่อวันจันทร์ นายคิโยชิ เอโอะนูมะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ กล่าวว่า จำเลยกระทำการโดยเจตนาอันแรงกล้า และมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า จึงเห็นสมควรให้ลงโทษสถานหนัก ด้วยการประหารชีวิต
คดีนี้ทนายจำเลยเบิกความต่อศาล ในระหว่างเริ่มต้นการพิจารณาคดี เมื่อเดือน ม.ค. ปีนี้ว่า นายอูเอะมัตสึมีความบกพร่องทางจิต หรือสติไม่สมประกอบ ขณะลงมือก่อเหตุ เนื่องจากการเสพกัญชา แต่อัยการโต้แย้งว่า จำเลยมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ขณะลงมือก่อเหตุ ดังนั้นจึงต้องรับผิดชอบเต็มที่ต่อผลของการกระทำ
นายอูเอะมัตสึเผยต่อสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่มีแผนจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาในรูปแบบใด.