ดาบแรกเด้ง "วิชัย" ดาบ 2 มีไหมเชือด "บิ๊ก" สูงกว่า

2020-03-16 17:55:06

ดาบแรกเด้ง "วิชัย" ดาบ 2 มีไหมเชือด "บิ๊ก" สูงกว่า

Advertisement

เรียบร้อยโรงเรียน "บิ๊กตู่" ไปเรียบร้อย อธิบดีกรมการค้าภายใน นายวิชัย โภชนกิจ ไปประจำสำนักนายกฯ

หลังเกิดปํญหาที่ไร้คำตอบชัดเจน เรื่องหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้ภายในประเทศ แต่กลับไม่มีขายในท้องตลาด ทั้งร้านค้า ร้านยา ส่วนโรงพยาบาลก็ขาดแคลน บุคลากรทางการแพทย์ไม่มีใช้ แต่ขณะเดียวกัน กลับไปมีปรากฎในเวบไซต์หรือประกาศขายผ่านสื่อออนไลน์ รวมกระทั่ง มีปรากฎส่งออกต่างประเทศ

เป็นวิกฤติขาดแคลนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมกราคม กระทั่งถึงกลางเดือนมีนาคม แม้กระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายใน จะกล่าวย้ำหลายครั้งหลายหน ยืนยันยอดผลิตจากโรงงาน 11 แห่งในประเทศ มีสูงถึงวันละ 1.35 ล้านชิ้น แต่ก็ไม่เคยเพียงพอหรือมีคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผลอยู่ดี

ไม่เพียงเท่านั้น อธิบดีกรมการค้าภายใน ยังมีวิวาทะผ่านสื่อกับสมาคมร้านขายยา ชมรมร้านขายยา เนื่องจากไม่ได้รับหน้ากากอนามัยตามข้อตกลงว่าด้วยการจัดสรรสินค้า ด้วยข้ออ้างอยู่ในระหว่างการจัดส่ง และโรงงานผลิตไม่สามารถทำสัญญาซื้อขายกับสมาคมได้

แถมยังเปิดศึกแจ้งความดำเนินคดีกับโฆษกกรมศุลากร ว่าด้วยตัวเลขการส่งออกหน้ากากอนามัยอีกต่างหาก

นายวิชัย โภชนกิจ เป็นชาว อ.สทิงพระ จ.สงขลา เรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย จบจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา

พื้นเพครอบครัวฐานะไม่ดีนัก ช่วงเข้ามาศึกษาต่อปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ต้องพักอาศัยอยู่ที่วัดบุรณศิริมาตยาราม แถวศาลเจ้าพ่อเสือ แต่อาศัยความขยัน ไม่ย่อท้อ กระทั่งจบปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

รับราชการเป็นผู้อำนวยการกลุ่มงานปศุสัตว์และสัตว์น้ำ กรมการค้าภายใน (2543-2544), เลขานุการกรม กรมการค้าภายใน (2548-2550) ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาการตลาด กรมการค้าภายใน (2550-2551)

ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต้นทุนและกำหนดราคาสินค้า กรมการค้าภายใน (2551-2553), รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (2553-2554), รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (2554-2558), ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ (2558-2559)

ก่อนไต่เต้ามาเป็น รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในปี 2559 และขึ้นเป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561

เหตุผลด้านหนึ่งที่ถูกคำสั่งเด้งจากอธิบกรมการค้าภายใน คือเพื่อให้การตรวจสอบเรื่องหน้ากากอนามัยเป็นไปอย่างราบรื่น แต่อีกด้านหนึ่ง ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนทั่วไป ที่ตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสในสถานการณ์ที่ประชาชนเดือดร้อน ต้องการซื้อหน้ากากอนามัยในช่วงโควิด 19 กำลังแพร่ขยาย แต่กลับไม่มีขาย

พลันที่มีคำสั่งย้ายจากตำแหน่งใหญ่ ที่คนทั่วไปมองว่าเป็นเก้าอี้ที่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์มหาศาล แต่เต็มไปด้วยเงื่อนปมซับซ้อน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเสียงเชียร์ "บิ๊กตู่" และเสียงชื่นชมตามมา

แต่ขณะเดียวกัน ข้อกังขาของผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่อยากจะเห็นรัฐบาล "บิ๊กตู่" เดินหน้าต่อไป คือการสืบสาวให้ลึกลงไปว่าใครเป็นระดับ "บิ๊ก" ที่ยืนทะมึนสั่งการอยู่เบื้องหลังหรือไม่

โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองที่ปกติมักจะรอดตัวอยู่บ่อยๆ แล้วปล่อยให้ข้าราชการประจำรับเคราะห์กรรมแทน

งานนี้ ถ้ากล้าทำและทำสำเร็จ "บิ๊กตู่" อาจได้กองเชียร์อีกบานตะไท

ว่าแต่จะกล้าหรือเอาจริงแค่ไหน เท่านั้นเอง