เคลียร์ชัดทำไมไม่ขึ้นคอนเสิร์ต "มด ณปภัช" พูดหมดเปลือกกับเส้นทางที่เลือกแล้ว

2020-03-16 14:35:39

เคลียร์ชัดทำไมไม่ขึ้นคอนเสิร์ต "มด ณปภัช" พูดหมดเปลือกกับเส้นทางที่เลือกแล้ว

Advertisement

เคลียร์ดราม่าไม่ขึ้นคอนเสิร์ตกามิกาเซ่ ! “มด ณปภัช” เผยเหตุลาวงการนักร้อง สู่เส้นทางความฝันแอร์โฮสเตส ...



อดีตนักร้องดูโอ้ในตำนาน อย่าง "โฟร์-มด" ที่ตอนนี้สาว "มด ณปภัช" ผันตัวเองจากนักร้อง นักแสดง มาเป็นแอร์โฮสเตสเรียบร้อยแล้ว และเร็วๆ นี้ก็จะมีคอนเสิร์ตกามิกาเซ่ แต่ก็ไม่มีชื่อของโฟร์-มด ร่วมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ล่าสุด สาวมด ได้เปิดใจถึงกรณีดังกล่าวอย่างหมดเปลือก




ตอนนั้นที่พูดว่าดัง ดังขนาดไหน ?
มด : ตอนนั้นมดยังเด็กมาก ด้วยความเด็กมากเราไม่รู้อะไรคือดัง เราจะเอ็นจอยกับการทำงานมากกว่า พอเราโตขึ้นมา เรามองย้อนกลับไป เออเนอะสมัยก่อนเราค่อนข้างนิดนึง เพราะว่าเวลาเราไป School Tour เรารู้สึกว่าน้องๆ เขากรี๊ดกันเยอะมาก





แม่ตอนนั้นลูกดังขนาดไหน ?
แม่แดง : ดังแบบไม่ได้ตั้งตัว การที่เอาเขาไปทำแม่เครียด เห้ย...ยังเรียนอยู่เลย อยู่ม.ต้นเอง อนาคตยังอีกไกล การเรียนหนังสือสำคัญ

เขาชอบหรือเปล่า หรือว่าแม่อยากให้ทำ ?
มด : เราชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว ก็เรียนร้องเพลง อยู่ดีๆ วันนั้นในคลาสเรียนโฟร์เขามาเรียนด้วย แล้วก็มีโปรดิ้วเซอร์มาด้วย เราก็ไม่รู้นั่งเรียนปกติ จนกระทั่งโฟร์เขาร้องเพลงให้โปรดิวเซอร์ฟัง พอร้องเสร็จปุ๊บครูก็บอกว่าไหนๆ ก็มาแล้วดูน้องๆ หน่อย พอร้องเสร็จปุ๊บโปรดิวเซอร์หันมาขอเบอร์ แล้วในช่วงสมัยนั้นยังมีข่าวแมวมองชอบหลอกอยู่





กลัวขนาดไหนที่เขามาขอเบอร์เรา ?
มด : ตอนนั้นถามว่ากลัวไหม รู้สึกประหลาด รู้สึกแบบอยู่ดีๆ มาขอเบอร์เรา เราก็เลยให้เบอร์แม่ไป แล้วเราก็ไม่บอกแม่ด้วย เพราะคิดว่าไม่น่ามีอะไรหรอก ก็ไม่สนใจอะไร

แม่แดง : ผ่านไป 2-3 วัน เลขาพี่เจมส์ เรืองศักด์ โทร.เข้ามาบอกว่าอยากได้น้องมดมาทำคู่ดูโอ้ แม่ก็งงว่าเอาเบอร์แม่ไปได้ยังไง



ใจแม่ไม่อยากให้เป็นนักร้อง อยากให้เขาเรียน ?
แม่แดง : แม่วางแพลนด้วยว่าโอเคยูจบมหาวิทยาลัยก่อน ค่อยไปประกวดซุปเปอร์โมเดล



พอไม่ได้ทำเพลงแล้วมดก็ไปเป็นนักแสดงเต็มตัว ?
มด : ใช่ เป็นนักแสดงอยู่ประมาณ 1-2 ปี



ถึงจุดอิ่มหรือเปล่าหรือหันไปเป็นแอร์โฮสเตส ?
มด : มันเหมือนกับว่าเราได้มาถามตัวเองว่าที่เราทำอยู่มันมั่นคงพอไหม เพราะ1.คือเราเป็นลูกคนเดียว ถ้าเกิดไม่มีเราแล้วใครจะดูแลพ่อแม่ พอเราได้คำตอบว่ามันไม่มั่นคงพอ เราเริ่มหันไปมองทางด้านอื่น

ระหว่างที่น้องรองานช่วงนั้นทางบ้านทำงานหมดไหม ?
แม่แดง : คุณพ่อทำงาน แต่เราก็อยากให้เขาทำอะไรที่มั่นคง มีรากฐานของชีวิต



ตอนนี้เป็นแอร์มาได้กี่ปีแล้ว ?
มด : 2 ปีกว่าแล้ว ชีวิตการเป็นแอร์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ คนละเรื่องกันเลย เพราะว่าคนอาจจะคิดว่าการเป็นแอร์จะต้องเรียนหนังสือเยอะ ต้องอ่านหนังสือเยอะ ก่อนที่เราติดปีกไปทำงานบนเครื่องจริงๆ ได้เราต้องเทรนก่อน ซึ่งเวลาเทรนมีเวลา 3 เดือน ซึ่ง 3 เดือนนี้อยู่ที่ไทยด้วย แล้วก็อยู่ที่มาเลเซียด้วย แล้วก็ไปเทรนมีการอ่านหนังสือ มีการสอบ มีการเรียนเกี่ยวกับเซฟตี้ทุกอย่างบนเครื่องบิน

ตอนที่เราตัดสินใจว่าจะเป็นแอร์ใจตอนนั้นอยากเป็นไหม ?
มด : ตอนแรกไม่กล้า มันเหมือนเราออกจากพื้นที่ออกไป ก้าวจากจุดที่มันมีอยู่แล้วไปสู่จุดศูนย์ เราก็ไม่รู้ว่าเราไปแล้วจะสู้คนอื่นได้ไหม เพราะคนอื่นมีการเตรียมตัวมาค่อนข้างเยอะ เราไม่รู้อะไรเลย เพิ่งศึกษาข้อมูล แล้วก็ไปสอบ TOEIC สมัคร แล้วก็ผ่านหลายๆ ด่าน เราก็ไม่รู้ว่าได้ไหม แต่หลายคนบอกว่าเป็นดารายังไงก็ได้

มีกระแสไหมว่าเป็นดารามันก็เลยได้ ?
มด : มี หนูเชื่อว่ามี

แม่แดง : เขาคิดว่าแม่ไปเซ็นหรือเปล่า แต่แม่ไม่รู้จักใคร



แล้วไปเจอกับสจ๊วตหนุ่มหล่อได้ยังไง ?
มด : จริงๆ ความสัมพันธ์เริ่มจากการเป็นเพื่อนก่อน แล้วค่อยๆ พัฒนากันไป

ตอนนั้นใครจีบใคร ?
มด : มันไม่มีใครจีบใคร

ทิว : ผมๆ เริ่มจากการเป็นเพื่อน ตอนแรกเห็นเขาร้องเพลงน่ารักๆ แบ้วๆ แต่พอรู้จักเขาเป็นคนห้าวๆ ผมก็ซื้อหนมปังไปให้




ทำไมเขาถึงผ่านแม่ ?
แม่แดง : คือด้วยแว๊บแรกที่เราเห็นเขาเนี่ยเราถูกชะตา คนนี้เขากล้าอย่างนึง กล้าเข้ามา

รู้ไหมว่าแม่เขาหวงมาก ?
ทิว : มีคนบอกหลายคน ถามว่าทำยังไงเอาชนะใจแม่ได้ ก็เป็นแบบนี้แหละ เป็นตัวของตัวเอง ทำตัวปกติเลย

ทิวแต่งงานเมื่อไหร่ ?
ทิว : ในใจคิดอยู่แล้ว แต่ขอเวลาแพ๊บหนึ่ง



ทำไมคอนเสิร์ตกามิกาเซ่ไม่มีชื่อโฟร์-มด ?
มด : เอาจริงๆ มีผู้ใหญ่ติดต่อมาหลายรอบเลย แต่ว่า เราก็ยอมรับเลยเรามีตารางบินของเรา เราจะรู้เดือนต่อเดือน เราจะไม่ได้รู้ล่วงหน้า 2-3 เดือน แล้วอีกอย่างหนึ่งมดทำงานในบริษัท และมดเชื่อว่าแต่ละบริษัทเขามีกฎของเขาที่เราต้องปฏิบัติตาม แล้วพอเรามาเทียบกันแล้วเราไม่น่าไหว เรายอมรับตรงๆ เลยว่าเราเป็นคนที่ถ้าเกิดเราทำงานเราอยากเต็มร้อยกับทุกอย่าง แต่ถ้าเกิดเรารู้ว่าเราไม่เต็มร้อยแล้วเราไปทำตรงนั้นเราจะรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง

บางคนเขาคิดหรือว่า โฟร์-มด มีปัญหาเรื่องเงินหรือเปล่า ?
มด : ไม่มีๆ เพราะว่าทุกวันนี้เรากับโฟร์ก็ยังคุยกันอยู่ ล่าสุดที่มดลงไปในไอจี โฟร์ก็ส่งดอกไม้มาให้ในวันวาเลนไทน์ ไม่มีอะไร ความสัมพันธ์ยังปกติเหมือนเดิม แต่ว่าเรารู้ตัวเองว่าถ้าเกิดเราทำแล้ว แล้วเราไม่ไหว แล้วมันมีการมากระทบกับหน้าที่การงานเรา เราก็ไม่อยากเสี่ยง คนไปดูก็จะดูแค่วันเสิร์ต แต่คนที่เล่นคอนเสิร์ตจะต้องมีการทำโปรโมท มีซ้อมแล้วมันต้องซ้อมหลายวัน ซึ่งมันเป็นคอนเสิร์ตใหญ่มันไม่ใช่แค่มีโฟร์ มด มันมีศิลปินคนอื่นๆ ด้วย เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการรวมคิวกันหลายๆ คน แล้วถ้าเกิดสมมติว่าจะยึดคิวมดคนเดียวมันก็ดูเห็นแก่ตัวเกินไป เราก็รู้สึกไม่โอเคแล้ว



ถ้าโฟร์ขึ้นเองเราโอเคไหม ?
มด : โอเค ไม่ซีเรียสอะไรเลย ถ้าเกิดโฟร์เขาอยากขึ้น เราก็พร้อมซัพพอร์ต

ทำไมมดไม่เรียกโฟร์ว่าพี่ ?
มด : อาจจะเป็นเพราะสนิทกัน แต่ก่อนเราเรียกว่าพี่โฟร์นะ เราสนิทกัน เราทำงานด้วยกันมา 10 กว่าปีแล้ว ตอนแรกเราก็เรียกว่าพี่โฟร์

เบื่อไหมที่คนคิดว่าเรากับโฟร์ตีกัน ?
มด : ตลก เพราะว่าตอนเด็กๆ เรารู้สึกว่าทำไมมีข่าวแบบนี้มาเรื่อยๆ พอโตขึ้นเราเริ่มตลกละ ต่อให้เราตอบไปว่ามันไม่มีอะไรคนก็ยังคิดว่าตีกัน ก็เอาเลยถ้าเกิดคนเขาว่าเราตีก็ปล่อยเขาไป สุดท้ายเราไปเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้