พาณิชย์ประสาน 11โรงงานผลิตเพิ่มหน้ากากอนามัย

2020-03-16 05:00:33

พาณิชย์ประสาน 11โรงงานผลิตเพิ่มหน้ากากอนามัย

Advertisement

รมว.พาณิชย์เผยประสาน 11โรงงาน ปรับไลน์ผลิตเพิ่มหน้ากากอนามัยเพื่อการแพทย์ พร้อม เตรียมช่องทางจำหน่ายผ่านอเมซอน บางจาก ไปรษณีย์ไทย

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์หน้ากากอนามัยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานงานกับผู้ผลิตจากทั้ง 11 โรงงาน เพื่อขอความร่วมมือในการปรับไลน์การผลิต จากการผลิตสินค้าอื่นให้หันมาผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อการแพทย์ Surgical Mask ให้มากขึ้น และขณะนี้ดำเนินการได้แล้วบางส่วน สามารถผลิตได้เพิ่มจากวันละ 1 ล้าน 2 แสนชิ้น ซึ่งใน 1-2 วันนี้สามารถผลิตเพิ่มขึ้นได้เป็น 1 ล้าน 7 แสน 6 หมื่นชิ้นแล้ว เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 5 แสน 6 หมื่นชิ้น ช่วยให้การกระจายหน้ากากมีความคล่องตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ยังไม่เพียงพอหากประชากร 60 ล้านคนต้องการในเวลาเดียวกันก็ไม่พออยู่แล้ว และมีข้อจำกัด แต่ก็ช่วยให้การกระจายหน้ากากอนามัยไปสู่บุคลากรทางการแพทย์ สถานพยาบาลต่างๆ และผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ มีความคล่องตัวขึ้น คือเพิ่มสัดส่วนจากวันละ 7 แสนชิ้น เพิ่มเป็น 1 ล้านชิ้นแล้ว โดยวันนี้ได้จัดส่งให้ในกลุ่มนี้ไป 1 ล้านชิ้น และพรุ่งนี้ก็จะจัดส่งเพิ่มให้อีก 1 ล้านชิ้นเช่นกัน ก็จะช่วยให้กระทรวงสาธารณสุขสามารถนำหน้ากากไปกระจายให้กับโรงพยาบาลในสังกัด ทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน รพ.สต. และสมาคมโรงพยาบาลเอกชนก็นำไปกระจายในสมาชิกในสมาคม รวมไปถึงโรงเรียนแพทย์ต่างๆ คลินิกเอกชน และโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร 

สำหรับในส่วนความรับผิดชอบที่กระทรวงพาณิชย์จะไปกระจายนั้นก็มีปริมาณมากขึ้นจากวันละ 5 แสน เพิ่มเป็น 7 แสน 6 หมื่นชิ้น ก็จะช่วยระบายไปยังร้านขายยา ร้านค้าปลีก ค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อได้เพิ่มเติมขึ้น เช่น  วันที่ 15 มี.ค. กระทรวงสาธารณสุข 1 ล้านชิ้น สามารถกระจายให้องค์การเภสัชกรรม ซึ่งรับผิดชอบโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลกรมการแพทย์ โรงพยาบาลรัฐนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมดจาก 4 แสน 3 หมื่นชิ้น เพิ่มเป็น 5 แสน 7 หมื่นชิ้น สถานพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้นได้เป็น 2 แสนชิ้น โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น รพ.รามา ศิริราช รพ.เชียงใหม่ ขอนแก่น เพิ่มได้เป็นแสนชิ้น รพ.สังกัด กทม. ได้ แสน 3 หมื่นชิ้น รวมทั้งหมด 1 ล้านชิ้น

ฟากกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 7 แสน 8 หมื่นชิ้น ร้านธงฟ้าได้ 2 แสนชิ้น เซเว่นอิเลฟเว่น 3 แสนชิ้น ร้านขายยาจาก 2.5 หมื่นชิ้นได้เพิ่มเป็น 3 หมื่นชิ้น เริ่มกระจายไปหน่วยอื่นๆ อีกหลายหน่วย รวมทั้งหมด 7 แสน 8 หมื่นชิ้น 

สำหรับวันที่ 16 มี.ค. จะดำเนินการกระจายได้ 1 ล้าน 7 แสน 8 หมื่นชิ้น กระทรวงสาธารณสุข จะได้รับจัดสรร 1 ล้านชิ้น เพื่อกระจายไปยังสถานพยาบาลต่างๆ สำหรับในส่วนกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 7 แสน 8 หมื่นชิ้น จะจัดสรรให้ร้านธงฟ้า 1 แสนชิ้น เซเว่นอิเลฟเว่น 1 แสนชิ้น ร้านขายยาได้เพิ่มเติมเป็น 6 หมื่นชิ้น ห้างแมคโคร ได้ 1 แสนชิ้น วิลล่ามาร์เก็ต 5 หมื่นชิ้น ห้างท็อป 1 แสนชิ้น เทสโก้โลตัส 1 แสนชิ้น บิ๊กซี 5 หมื่นชิ้น เดอะมอลล์ 1 แสนชิ้น และที่เหลือส่งให้กลุ่มเสี่ยงอื่นๆ 

ทั้งหมดได้มีการบริหารจัดการเป็นรายวัน โดยมีการตรวจสอบสต็อกของแต่ละที่ว่าที่ใดจำเป็นต้องส่งเพิ่มให้ นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าเพิ่มเติมว่า ภายในสัปดาห์จะมีข้อสรุปว่าอาจมีช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้นเช่น ร้านกาแฟอเมซอน หรือปั๊มน้ำมันบางจาก อีกทั้งกำลังเจรจากับไปรษณีย์ไทย (Thai Post Mart) ซึ่งเป็นการสั่งซื้อออนไลน์ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบทันที

“ในภาพรวม ขอแจ้งให้รับทราบข้อเท็จจริงว่า ถึงอย่างไรจะไปที่ไหนอย่างไรก็ไม่พอ เพราะแม้จะเพิ่มเป็นวันละ ล้าน 7 แสน ล้าน 8 แสนชิ้นได้แล้วก็ตาม แต่ถ้าความต้องการของประชาชน 60 กว่าล้านคนพร้อมกันอย่างไรก็ไม่พอ แต่จะพยายามกระจายให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายจุรินทร์กล่าวย้ำ 

นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงปัญหาในเรื่องวัตถุดิบว่า จะได้เร่งประสานงานกับจีน และประเทศอื่นๆ ที่มีวัตถุดิบนำเข้า เพื่อให้เอกชนเห็นลู่ทางที่จะเร่งนำเข้าวัตถุดิบ เพราะหากเพิ่มกำลังการผลิตแต่สุดท้ายไปติดที่วัตถุดิบ การผลิตก็เกิดขึ้นไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามได้คุยกับอุปทูตจีนไป (เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา) คิดว่าสัปดาห์หน้าอาจจะได้รับคำตอบเบื้องต้นในสิ่งที่ได้ขอความร่วมมือไป ซึ่งรวมถึงวัตถุดิบด้วย 

สำหรับโรงงานที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้น เพราะวัตถุดิบแพงขึ้น เช่น ไส้กรองที่อยู่ในชั้นกลาง กก.ละ 4 เหรียญ ขณะนี้ราคาเพิ่มขึ้น 10 เท่า รัฐบาลได้แจ้งว่าไม่ต้องกังวล เพราะรัฐบาลพร้อมช่วยสนับสนุนในเรื่องต้นทุนส่วนเกิน เพียงแต่ขอให้เร่งผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ออกมาเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ สถานพยาบาล ผู้ป่วยให้ใช้ได้ก่อนให้ได้มากที่สุด ที่เหลือกระจายไปยังประชาชนในช่องทางต่างๆ รวมทั้งจะส่งเสริมให้ประชาชนที่ไม่ป่วยหันมาใช้หน้ากากผ้าเป็นหลัก ทางกระทรวงมหาดไทยกำลังเร่งผลิตออกมา 50 ล้านชิ้นเพื่อแจกจ่ายไปยังประชาชนทั่วไป และรัฐบาลก็พร้อมให้ภาคธุรกิจได้เข้ามาช่วยผลิตหน้ากากผ้า ซึ่งซักได้ และกระทรวงสาธารณสุขรับรองว่าใช้ได้ให้มากขึ้น เพื่อเข้าสู่ตลาด อันจะทำให้ประชาชนไม่เร่งซื้อหา หรือมาเบียดความต้องการหน้ากากอนามัยทางการแพทย์

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่มีการแชร์ภาพการอนุญาตส่งออกนั้น รมว.พาณิชย์กล่าวว่า สำหรับการส่งออกนี้ อธิบดีกรมการค้าภายในจะได้ชี้แจงในรายละเอียด แต่ในภาพรวมแล้วกระทรวงมีคำสั่ง หรือประกาศห้ามอนุญาตส่งออก หรือ การอนุญาตส่งออกได้นั้นหากเป็นหน้ากากอนามัยที่ใช้ทางการแพทย์และประเทศไทยต้องใช้ คนไทยต้องใช้จะไม่อนุญาตให้ส่งออกเด็ดขาด เพราะตราบใดที่คนไทยไม่พอใจ เราไปอนุญาตส่งออกเราจะตอบคำถามคนไทยได้อย่างไร 

“การที่จะอนุญาตส่งออกได้นั้นก็พูดกันชัดเจนแล้วในทางนโยบายว่า ถ้าเป็นหน้ากากอนามัยที่ใช้ทางการแพทย์และประเทศไทยต้องใช้ คนไทยต้องใช้จะไม่อนุญาตให้ส่งออกเด็ดขาด เพราะตราบใดที่คนไทยไม่พอใจ เราไปอนุญาตส่งออกเราจะตอบคำถามคนไทยได้อย่างไร แต่ว่ามันข้อยกเว้น ถ้าเป็นหน้ากากอนามัยชนิดที่ประเทศไทยไม่ใช้ หรือเป็นหน้ากากอนามัยที่ผลิตภายใต้ทรัพย์สินทางปัญญา หรือลิขสิทธิ์ของต่างประเทศที่เขาทำสัญญากันมาก่อนล่วงหน้าแล้วว่าถ้าผลิตแล้วต้องส่งไปยังผลิตไปยังประเทศต้นทางที่มีคำสั่งซื้อเท่านั้น จะเอามาขายในประเทศไม่ได้ เพราะผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็ต้องอนุญาตให้เขาส่งออก หรือส่งออกภายใต้เงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ตั้งแต่เบื้องต้นว่า เมื่อผลิตแล้วต้องส่งออกเท่านั้น เพราะได้รับสิทธิพิเศษ อันนี้เราก็ต้องอนุญาตให้เขาส่งออกตามเงื่อนไข แต่นอกเหนือจากนี้อาจมีรายละเอียดอีกบ้าง เราก็ไม่อนุญาต”

“ขณะนี้อาจทำให้เกิดความสับสนในสังคมบ้าง เพราะมีการเอาใบอนุญาตส่งออกที่ว่าภายใต้เงื่อนไขดังกล่าวมาเปิดเผย แม้จะไม่เป็นเรื่องที่มีความลับ และเป็นเรื่องที่เปิดเผยได้ แต่เมื่อนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะบางครั้งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในเบื้องต้น และโดยอำนาจหน้าที่แล้วหน้าที่ในการเซ็นใบอนุญาตไม่ใช่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ แต่เป็นอำนาจของอธิบดีกรมการค้าภายในซึ่งมีหลายฝ่ายเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าเป็นใบอนุญาตภายใต้เงื่อนไขอย่างที่เรียนไป และผมก็เรียนกับท่านว่าต้องอดทน อดทนที่จะชี้แจง เพราะเมื่อสังคมตั้งคำถาม หรือสังคมเข้าใจคลาดเคลื่อนก็ต้องอดทนเพื่อชี้แจง” รมว.พาณิชย์ กล่าว