เชียงใหม่ค่าฝุ่นพุ่งสูงถึง 715 มคก.ต่อ ลบ.ม. เป็นพื้นที่สีแดงทั้งจังหวัด ติดอันดับ 1 ของโลกด้านคุณภาพอากาศย่ำแย่เป็นเวลา 4 วันแล้ว ด้านเทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งสอนประชาชนทำหน้ากากและเจลล้างมือใช้เอง เพราะหน้ากากขาดแคลนและมีราคาแพง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 มี.ค. นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นประธานเปิด "อบรมเชิงปฏิบัติการ ให้ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ป้องกันฝุ่น PM 2.5 การทำหน้ากากอนามัยด้วยตนเอง และการทำเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือ" โดยมีประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 150 คน เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ ที่ห้องโถงอาคาร 5 สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัยที่จะนำมาป้องกันเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากไม่สามารถที่จะหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ ถึงแม้จะซื้อมาได้ก็ไม่เพียงพอหรือมีราคาแพง ดังนั้น ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ จึงเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ในวันนี้ก็ได้จัดอบรมให้ความรู้กับตัวแทนในชุมชนต่างๆ ของพื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อที่จะเป็นกระบอกเสียงและนำไปเผยแพร่ข้อมูลในชุมชน ถึงวิธีการทำหน้ากากอนามัยด้วยตนเอง หรือทางชุมชนจะทำหน้ากากแจกจ่ายให้กับประชาชนในชุมชนตนเองก็สามารถทำได้ ก็จะทำให้ประชาชนในชุมชนมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น และผ่านพ้นวิกฤติของการแพร่ระบาดเรื่องไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และปัญหาฝุ่นควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ได้
นอกจากนี้ก็ได้มีการสอนเรื่องการทำเจลแอลกฮอล์ล้างมือ ที่สามารถทำเองได้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลนครเชียงใหม่ มาสอนวิธีการทำ ซึ่งประชาชนก็สามารถหาซื้อและนำมาทำใช้เองที่บ้าน ก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไปซื้อหลอดขนาดเล็กและมีราคาแพงได้ และหากชุมชนทำเป็นจำนวนมาก ก็สามารถที่จะแจกจ่ายคนในชุมชนได้ด้วย
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศเตือนประชาชนผ่านแอปพลิเคชั่น AirCMI เป็นแอปตรวจดูคุณภาพอากาศและแจ้งเตือนของจังหวัดเชียงใหม่ โดยพบว่าเช้านี้มีค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงที่สุด 3 อำเภอคือ อำเภออมก๋อย วัดค่าได้ 715 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาเป็นอำเภอแม่แตง วัดค่าได้ 552 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอำเภอฝาง 482 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ สำหรับตัวเมืองเชียงใหม่ วัดค่าได้ 402 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยค่าฝุ่นยังคงอยู่ในพื้นี่สีแดงทั้งจังหวัด อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอแนะนำให้ประชาชนงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง สำหรับกลุ่มเสี่ยงควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้นเช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง และควรสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ขณะที่ด้านแอปพลิเคชั่น AirVisual จัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่อันดับ 1 ในด้านดัชนีย์คุณภาพอากาศย่ำแย่ ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แล้ว
สรุปผลการจับกุมผู้กระทำความผิดฝ่าฝืนประกาศจังหวัดเรื่องห้ามเผาในห้วงระหว่างวันที่ 1 ม.ค. จนถึงปัจจุบัน ผลดำเนินการ 247 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 18 ราย ป่าไม้ 163 ราย จราจร 66 ราย เปรียบเทียบปรับ 75 ราย เป็นเงิน 31,900 บาท แยกเป็นสาธารณสุข 12,600 บาท จราจร 19,300 บาท แจ้งความดำเนินคดี 172 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 8 ราย ป่าไม้ 161 ราย จราจร 1 ราย และคดีที่ไม่พบตัวผู้กระทำความผิด 161 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 2 ราย ป่าไม้ 159 ราย อยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา สภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ขาวโพลนไปด้วยหมอกควัน ซึ่งมองไม่เห็นดอยสุเทพเป็นเวลาติดต่อกัน 4 วันแล้ว เนื่องจากสภาพของหมอกควันที่หนาจนเห็นเป็นหมอกสีขาว และทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลงด้วย ขณะที่ประชาชนได้หันมาสวมใส่หน้ากากอนามัยกันมากขึ้น เพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5