ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ กรณีการระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 เมื่อวันศุกร์ เปิดประตูไปสู่ความช่วยเหลือมากขึ้นจากรัฐบาลกลางในการต่อสู้กับไวรัสร้ายด้วยการจัดสรรงบประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์ช่วยเหลือรัฐและท้องถิ่นต่าง ๆ ในประเทศ
โดยตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 14 มีนาคมตามเวลาในประเทศไทย 10.00 น. มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐจำนวน 2,291 ราย เพิ่มขึ้น 533 ราย มียอดผู้เสียชีวิตจำนวน 50 ราย หายป่วยแล้ว 40 ราย
โดยรัฐที่มีผู้ติดเชื้อโควิด -19 สูงสุด 10 รัฐ ประกอบด้วย วอชิงตัน 568 ราย, นิวยอร์ค 421 ราย, แคลลิฟอร์เนีย 295 ราย , แมสซาชูเซต 123 ราย, คอโลราโด จำนวน 77 ราย ,ฟลอริดา 51 ราย, นิวเจอร์ซีย์ 50 ราย, เท็กซัส 47 ราย, อิลลินอยส์ 46 ราย และ จอร์เจีย 42 ราย
ด้านทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีภาพยืนคู่กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลบราซิลคนหนึ่งที่มาเยือนทำเนียบขาว ซึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กล่าวว่า ตัวเขาจะไปตรวจร่างกายหาเชื้อไวรัสในเร็ว ๆ นี้ แต่ไม่มีแผนกักตัวเอง พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่า เขาไม่มี หรือแสดงอาการป่วย นอกจากนี้ เขายังบอกว่า รัฐบาลกลางกำลังประสานงานกับภาคเอกชนเพื่อเร่งผลิตชุดตรวจ เพื่อให้ประชาชนหาง่ายขึ้น ในความพยายามที่จะหยุดยั้งการระบาดของโรค