ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ในอิตาลี เพิ่มอีก 250 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติรายวันที่สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มการระบาดของไวรัสในอิตาลีเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งอิตาลีเป็นประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสรุนแรงที่สุดในยุโรป และนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 17,660 ราย เพิ่มขึ้นจาก 15,113 รายเมื่อวันก่อน หรือประมาณร้อยละ 17 ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,266 รายหลังมีผู้เสียชีวิตอีก 250 ราย
ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลอิตาลีใช้ “ยาแรง” มากขึ้นเพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัสร้าย สั่งปิดร้านอาหาร, บาร์และร้านค้าเกือบทั้งหมดทั่วประเทศ มีเพียงร้านอาหารและร้านยาเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น แต่ถึงกระนั้น สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนอิตาลี แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า มาตรการที่ใช้อยู่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณว่าจะลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อได้
ด้านแคว้นลอมบาร์ดี โดยกุยลีโอ กัลเลรา ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขของแคว้น ออกมาเรียกร้องให้มีการปิดโรงงาน, สำนักงาน และขนส่งสาธารณะทั้งหมดในแคว้น หากสามารถทำได้อย่างน้อย 8 วัน อาจได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป จนถึงขณะนี้ มาตรการปิดเมืองของรัฐบาลยังไม่เพียงพอสำหรับแคว้นลอมบาร์ดี ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองมิลาน ศูนย์กลางการเงินของประเทศ และมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสในแคว้นนี้คิดเป็น 3 ใน 4 ของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีสัญญาณว่า นายกรัฐมนตรีจุสเซปเป คอนเต ของอิตาลีจะตกลงเห็นด้วยที่จะใช้มาตรการควบคุมเพิ่มเติมในศูนย์กลางธุรกิจของอิตาลีแห่งนี้ โดยรัฐบาลกังวลเกี่ยวกับความตื่นกลัวระยะยาวว่า ไวรัสจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เปราะบาง
ขณะเดียวกัน มีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่นเฟียต ไครสเลอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของอิตาลี ก็ปิดบริษัทในบางส่วน ขณะที่บริษัทเบรมโบ ผู้ผลิตระบบเบรกรถยนต์ ก็ประกาศเมื่อวันศุกร์ ว่าจะหยุดงานชั่วคราวในโรงงานทั้ง 4 แห่งในอิตาลี