“เทพไท” ท้า “อัจฉริยะ” เปิดชื่อขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย (คลิป)

2020-03-13 10:53:04

“เทพไท” ท้า “อัจฉริยะ” เปิดชื่อขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย (คลิป)

Advertisement

“เทพไท” ท้า “อัจฉริยะ” เปิดชื่อขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย อย่ากลัวถูกฟ้องร้อง ยันไม่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี ปชป.แน่นอน

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ออกมาเปิดโปงถึงนักการเมืองหญิงเป็นที่ปรึกษานักการเมือง มีเอี่ยวกับการส่งออกหน้ากากอนามัยว่า เป็นข้อมูลที่น่าสนใจในภาวะที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหาเชื้อโควิด-19 กำลังระบาด มีการขาดแคลนหน้ากากอนามัย แต่ยังมีบุคคลบางกลุ่มฉวยโอกาสแสวงหาประโยชน์บนความเดือดร้อน และความเป็นความตายของผู้คนอยู่ แต่การที่นายอัจฉริยะ ออกมาเปิดโปงแบบครึ่งๆกลางๆ อาจจะทำให้สังคมสับสนและเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงได้ ซึ่งอาจจะพาดพิงไปยังตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองอื่นๆ ที่อาจจะได้รับความเสียหายได้ จึงอยากจะเรียกร้องให้นายอัจฉริยะเปิดเผยความจริง โดยระบุชื่อ นามสกุล บุคคลที่เกี่ยวข้อง กับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ถ้าหากนายอัจฉริยะมั่นใจในข้อมูลของตัวเอง ก็ไม่ต้องเกรงกลัวการถูกฟ้องร้องหรือดำเนินคดีทางศาล ทั้งนี้การพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะย่อมสามารถกระทำได้ การที่บุคคลใกล้ชิดของรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์การส่งออกกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย จะเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่รัฐมนตรีและสร้างความเสื่อมเสียต่อรัฐบาลโดยรวม ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเกี่ยวข้องรัฐมนตรีคนไหน กระทรวงใด พรรคการเมืองอะไร ก็ไม่ควรที่จะละเว้นการตรวจสอบ

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเห็นว่าเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ 3 ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ3 ที่ระบุถึงการทุจริตคอร์รัปชัน จะต้องได้รับการจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นกับรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ หรือรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดก็ตาม จะต้องได้รับการตรวจสอบและต่อต้านจาก สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน

“สำหรับข้อมูลที่นายอัจฉริยะออกมาแฉนั้นถ้าเป็นความจริง ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน เพราะรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนนั้น ทางพรรคได้เน้นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และความรับผิดชอบในหน้าที่ และต้องมีความรับผิดชอบต่อบุคคลที่ตนเองเป็นตั้งเป็นที่ปรึกษา เลขานุการ และทีมงานรัฐมนตรีทุกคนด้วย เพราะเชื่อว่าได้มีการกลั่นกรองคุณสมบัติของบุคคลเหล่านั้นมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ถ้าหากว่าคนใกล้ชิดรัฐมนตรีคนใดก็ตาม มีพฤฒิกรรมที่สร้างความเสียหาย หรือมีการทุจริตต่อหน้าที่ รัฐมนตรีผู้ที่ลงนามแต่งตั้ง จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้เป็นที่ยอมรับของสังคมด้วย”นายเทพไท กล่าว