ชาวอิตาลีตื่นขึ้นมาในพบกับถนนหลายสายที่เคยพลุกพล่าน ต่างร้างว่างเปล่าไร้ผู้คนเมื่อวันอังคารที่ 10 มีนาคม หลังรัฐบาลอิตาลีประกาศมาตรการปิดประเทศกักบริเวณประชาชน 60 ล้านคนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ศูนย์กลางการระบาดที่เลวร้ายที่สุดในยุโรป และรุนแรงที่สุดนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยมาตรการดังกล่าว ซึ่งประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาโดยนายกรัฐมนตรีจุสเซปเป คอนเต ผู้นำอิตาลี ขยายมาตรการปิดเมืองที่บังคับใช้ในแคว้นลอมบาร์ดี ที่มั่งคั่งร่ำรวยทางภาคเหนือของประเทศ และในหลายจังหวัดใกล้เคียง เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวและปิดสถานที่สาธารณะทั่วประเทศ
มาตรการนี้จะบังคับใช้อย่างน้อย 3 สัปดาห์ ประชาชนได้รับคำสั่งให้เดินทางเท่าที่จำเป็น เช่นไปทำงาน, เหตุผลด้านสุขภาพ หรือมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น นอกจากนี้ให้พักอยู่แต่ในบ้าน ซึ่งหากใครต้องการเดินทาง จะต้องพกเอกสารชี้แจงเหตุผลติดตัวด้วย เพื่อแสดงกับเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ การชุมนุมที่มีผู้คนจำนวนมากและการจัดงานกลางแจ้งต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งการแข่งขันกีฬา ถูกห้ามทั้งหมด ขณะที่บาร์และร้านอาหารจะต้องปิดร้านตั้งแต่เวลา 18.00 น. ส่วนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจะยังคงปิดการเรียนการสอนไปจนถึงวันที่ 3 เมษายน
แม้แต่ในช่วงกลางวัน ถนนหลายสายในกรุงโรม เมืองหลวงอิตาลี ก็ดูเงียบเหงากว่าปกติมาก และประชาชนจำนวนมากก็สวมหน้ากากอนามัย นักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับ “น้ำพุ เทรวี่” (Trevi Fountain) ลานน้ำพุและอนุสรณ์สถานที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก็ได้รับการแจ้งเตือนให้ย้ายออกไปที่อื่น
แต่ไม่นานหลังรัฐบาลประกาศมาตรการปิดประเทศ ประชาชนในกรุงโรม ก็เร่งรีบพากันไปยังห้างสรรพสินค้ากลางดึกเพื่อกักตุนอาหารและสิ่งของจำเป็นพื้นฐาน กระตุ้นให้รัฐบาลต้องออกมาประกาศรับประกันว่า สิ่งของจำเป็นต่าง ๆ สำหรับการดำรงชีพมีเพียงพออย่างแน่นอน และเรียกร้องประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกแห่กักตุน
ส่วนร้านค้าต่าง ๆ ได้รับอนุญาตให้เปิดค้าขายได้ ตราบใดที่บรรดาลูกค้ายังรักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตรตามมาตรการของรัฐบาล
ที่จัตุรัสกัมโป เดอ ฟีโอรี (Campo de' Fiori) ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่นกลางกรุงโรม ปกติบรรยากาศจะคึกคักเสียงดัง สภาพตอนนี้ไม่ต่างจากเมืองผี (ghost town) หรือเมืองร้างในช่วงเย็นวันอังคาร เพราะบาร์และร้านอาหารต่างพากันปิดให้บริการก่อนเวลา โดยจัตุรัสใจกลางกรุงโรมแห่งนี้ เป็นตลาดขายผลไม้และผักสดที่มีผู้คนจอแจ เนื่องจากมีบาร์และร้านอาหารอยู่ด้วย ซึ่งก็จะมีกลุ่มนักศึกษาและนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการกินดื่ม ถ้าเวลาปกติการกินดื่มจะยาวไปจนถึงเช้าวันใหม่กันเลย
แต่ตลอดทั้งวันอังคาร ร้านค้าต่าง ๆ กลับมีแต่โต๊ะเก้าอี้ที่ว่างเปล่า ลูกค้านับหัวได้ และต้องปิดก่อนเวลา