ร้อง! ผบช.ภ.5 ถูกตำรวจอุ้มรีดเงิน 3 แสน

2020-03-10 17:15:27

ร้อง! ผบช.ภ.5   ถูกตำรวจอุ้มรีดเงิน 3 แสน

Advertisement

ผู้เสียหายบุกร้อง ผบช.ภ.5 หลังถูกตำรวจอุ้มรีดเงิน 3 แสนบาท

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายฐานะพล (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี เจ้าของร้านอาหารในพื้นที่ อ.สันทราย และ น.ส.พิมพ์ชนก (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ซึ่งถือบัตรสีชมพูเป็นบัตรประจำตัวผู้ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย พร้อมบุตรชาย ด.ช.อีเกิล อายุ 1 ปี 11 เดือน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 โดยมี พ.ต.อ.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ รอง ผบก.สส.ภ.5 เข้ารับหนังสือร้องเรียนแทน

โดยได้มีการนำหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน และหลักฐานการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร หลายครั้งรวม 3 แสนบาท รวมถึงคลิปภาพกลุ่มตำรวจ และมีเสียงการพูดคุยตอบโต้ บอกให้หยุดถ่าย ถ้าถ่ายเดี๋ยวจะไม่ช่วย รวมถึงคลิปเสียงที่มีกลุ่มชายอ้างตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อ.แม่อาย ที่โทรมาขอเคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมเสนอเงินให้ 3.5 แสนบาท เพื่อจบคดีอย่าเอาเรื่องตำรวจเด็ดขาด และเชิงขู่ จะไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินหากยังดื้อดึงร้องเรียน




นางพิมพ์ชนก นายประทุม เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.พ.63 ช่วงเวลาบ่ายโมง ตนเองและบุตรชาย คือ ด.ช.อีเกิล ซึ่งเป็นลูกของตนเองกับนายฐานะพล ได้เดินทางไปงานแต่งญาติที่หมู่บ้านโป่งงาย ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ขากลับได้อาศัยนั่งรถคนในหมู่บ้านกลับ ระหว่างทางได้มีตำรวจหลายนาย ได้ตั้งด่านสกัดกั้นเพื่อขอตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย และตรวจปัสสาวะ ตรวจบัตรประชาชน แต่ไม่พบสารเสพติด ไม่พบสิ่งของผิดกฏหมายใดๆ แต่ตัวนางพิมพ์ชนก ไม่ได้พกบัตรสีชมพูติดตัว ทางชายจำนวน 5 คนที่แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ พร้อมขับขี่รถยนต์ตราโล่ของ สภ.แม่อาย จึงถูกหนึ่งในเจ้าหน้าที่เชิญตัว นางพิมพ์ชนก และลูกชาย พร้อมคนที่นั่งมาในรถเป็นคนในหมู่บ้านอีก 2 คนและเด็กสาวอีก 1 คนเข้าไปเจรจากันในป่าบนดอย ตนเองก็โวยวายว่าทำไมไม่พาไปโรงพัก แล้วจึงนำมาควบคุมไว้ที่ป้อม


ตอนแรกกลุ่มคนที่แต่งกายตำรวจ ก็อ้างว่าจะโดนข้อหานำพาต่างด้าว ข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และอื่นๆซึ่งเป็นข้อหาหนัก ติดคุก จากนั้นก็มีคนทำทีมาบอกว่าหากมีซัก 1 แสนก็จบกลับบ้านได้ ต่อมาก็ได้มีหญิงสาวอ้างตัวเป็นแม่หลวงของหมู่บ้านในพื้นที่ เข้ามาเจรจาตกลงปัญหาทุกอย่าง โดยขอเงินจำนวน 5 แสนเพื่อกลับบ้านได้ จบคดี แต่พวกตนไม่มีเงิน จึงต่อรองเหลือยอดรวม 3 แสนบาท ทางชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจก็นำบัตรเอทีเอ็มของตนไปกดเงินได้แค่ 8 หมื่นบาท ก่อนที่จะพาตนเองไปโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ให้เพิ่มอีก 6 หมื่นบาท จากนั้นหญิงที่อ้างเป็นแม่หลวงบอกว่าอีก 1.6 แสนบาทจะออกให้ก่อน แล้วค่อยให้พวกตนผ่อนชำระให้ทีหลังหลังการปล่อยตัว พอพวกตนกลับมาบ้านใน อ.สันทราย ก็หาเงินจำนวน 1.6 แสนบาทโอนให้หญิงที่อ้างตัวเป็นแม่หลวง พอได้ปรึกษากับคนรู้จักก็ถึงรู้ว่าพวกตนไม่ผิดอะไร แค่ลืมพกบัตร อย่างมากก็ถูกปรับ จึงคาดว่าถูกกรรโชกทรัพย์แน่นอน จึงเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมในครั้งนี้



ด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 ได้เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องราวร้องเรียน และสั่งการให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวมถึงสั่งการให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ทำการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยยืนยันให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ใครผิดก็จะไม่เลี้ยงไว้ รวมถึงให้ความดูแลความปลอดภัยต่อผู้ร้องเรียนไม่ให้เกิดปัญหาข่มขู่คุกคาม