เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวอย่างน่าหดหู่ ในอัตรารายปี ที่ 7.1 เปอร์เซนต์ ในช่วงระหว่างเดือน ต.ค. จนถึงเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้แต่แรก ทำให้เกิดภาวะวิตกว่า ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดอันดับ 3 ของโลก กำลังจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นับเป็นการหดตัวของเศรษฐกิจ เป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น ในรอบกว่า 1 ปี และมีขึ้นหลังจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีการขาย เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งส่งผลกระทบต่อการซื้อสินค้าปลีกของผู้บริโภค
ข้อมูลที่เปิดเผยโดยสำนักงานเลขานุการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อวันจันทร์ (9 มี.ค.) ไม่แสดงผลกระทบรุนแรงต่อการท่องเที่ยว และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามจากประเทศจีน ไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ทำนายว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวอีก ในไตรมาสแรกของปีนี้ และอาจจะหดตัวตลอดทั้งปี
ผลการสำรวจของสำนักเลขานุการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจทุกภาคส่วนได้ทรุดถอยลงอย่างหนัก สู่ระดับที่เคยเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อ 9 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงหลังเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554 ขณะที่ข้อมูลเบื้องต้นจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่น แสดงให้เห็นเช่นกันว่า การส่งออกของญี่ปุ่นลดลงเกือบ 17 เปอร์เซนต์ ในระยะ 20 วันแรกของเดือน ก.พ.ปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
นายฮารุมิ ทากูชิ นักเศรษฐศาสตร์ของศูนย์ข้อมูล ไอเอชเอส มาร์กิต (IHS Markit) ทำนายว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะหดตัวในอัตรารายปีที่ 0.3 เปอร์เซนต์ในปี พ.ศ. 2563 ก่อนจะฟื้นตัวสู่ระดับ 0.9 เปอร์เซนต์ ในปี 2564.