“เทพไท”แนะแก้ระบบเลือกตั้งกลับไปใช้ตาม รธน. 2540 และ 2550 หลังมีความเคลื่อนไหวตั้งพรรคใหม่ในช่วงนี้
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จำนวนหลายพรรคนั้นว่า ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทุกพรรคการเมือง ที่อยากจะมีส่วนร่วมในการรับใช้ประชาชน และนำอุดมการณ์ของพรรคให้ประชาชนพิสูจน์ในสนามเลือกตั้ง แต่การจัดตั้งพรรคการเมืองของแต่ละพรรคนั้น มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันเช่น 1.จัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อรองรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกยุบพรรคให้มาสังกัดพรรคใหม่ทั้งหมด เช่น พรรคก้าวไกล 2.ตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองที่แท้จริง เพื่อเสนอตัวเป็นทางเลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เช่นพรรคกล้า 3.จัดตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเป็นพรรคการเมืองของคนบางกลุ่ม บางสาขาอาชีพ เพื่อหวังคะแนนเสียงจากกลุ่มคนเหล่านั้น เช่นพรรคเสมอภาค
นายเทพไท กล่าวต่อว่า แต่จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ เพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองเป็นจำนวนมาก ก็สืบเนื่องมาจากเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ใช้หลักคิด ทุกคะแนนจะไม่ตกน้ำ จึงเป็นความหวังจากพรรคการเมืองเล็กๆ ที่มีความฝัน จะมี ส.ส.ที่ในสภาเหมือนกับพรรคเล็กพรรคน้อย จำนวน 10 กว่าพรรคในสภาชุดนี้ ซึ่งแต่ละพรรคมีคะแนนรวม ต่ำกว่าคะแนนเกณฑ์ค่าเฉลี่ยต่อ ส.ส.หนึ่งคน และบางพรรคยังได้คะแนนรวมน้อยกว่าคะแนนของ ส.ส.ระบบเขตในบางเขตด้วยซ้ำไป จึงทำให้พรรคการเมืองหลายพรรคมีความหวังว่าพรรคการเมืองของตนเอง สามารถมีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้ไม่ยาก ถ้าหากยังใช้หลักเกณฑ์ วิธีการคำนวณสัดส่วนที่นั่ง ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เพราะฉะนั้นถ้าต้องการให้ระบบการเมืองเข้มแข็ง หรือสนามเลือกตั้งไม่ใช่สนามทดลองสำหรับพรรคการเมืองบางพรรค จึงเห็นควรที่จะปรับปรุงแก้ไขระบบเลือกตั้งของรัฐธรรมนูญปี 2560 กลับไปใช้หลักเกณฑ์ระบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2540 หรือรัฐธรรมนูญ 2550 จะดีกว่า โดยใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง2ใบ ยึดหลัก เลือกคนที่เรารัก1ใบ เลือกพรรคที่เราชอบ1ใบ จะทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีอิสระในการลงคะแนน ย่อมดีกว่าระบบเลือกตั้งที่ใช้บัตรใบเดียว ซึ่งเป็นระบบที่ส่งเสริมให้มีการซื้อเสียงอย่างรุนแรงมากที่สุด เพราะการเลือกตั้งบัตรใบเดียว ซื้อเสียง1ใบ ได้ผล3ต่อ คือ 1.ได้ ส.ส.ระบบเขต 2.ได้ ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ และ3.ได้คะแนนของผู้ได้รับการเสนอตัวนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้นเพื่อให้การเมืองมีความเข้มแข็ง ลดการแข่งขันทางการเมืองที่รุนแรง ทำการเมืองให้ใสสะอาดมากยิ่งขึ้น จึงขอสนับสนุนการยกเครื่องระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อแก้ไขระบบการเลือกตั้งใหม่ให้เร็วที่สุด