ตำรวจค้นอาคารย่านหนองแขม หลังภาพว่อนโซเซียลหน้ากากอนามัยเพียบ “พันธ์ยศ อัครอมพงศ์”เจ้าของอาคารยันสั่งหน้ากากอนามัยไปช่วยเหลือชาวจีนช่วงเริ่มต้นระบาด สินค้ามาไม่ถึงวัน หน่วยงานของจีนที่ประสานขอความช่วยเหลือก็มารับ ยันไม่ได้มีการกักตุนแน่นอน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 มี.ค. พ.ต.ท.นิติกร ระวัง รอง ผกก.1 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เทพฤทธิชาวนาวิก รอง ผกก.สส.สน.หนองแขม เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน สนธิกำลังเจ้าหน้าที่รวมกว่า 30 นายนำหมายศาลอาญาตลิ่งชัน เลขที่ ค.57/2563 ลงวันที่ 9 มี.ค. 2563 เข้าตรวจค้นอาคารไทยเฮลท์ เลขที่6/32 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม หลังสืบทราบว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเดียวกับที่ปรากฏอยู่บนคลิปที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ปลูกติดกัน 7 คูหา มีความสูง 4ชั้นครึ่ง มีเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ภายในเปิดเป็นที่ทำการพรรคภราดรภาพ สมาพันธ์นักธุรกิจหนองแขม และสถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย-จีน ซึ่งบางส่วนแบ่งเป็นโกดังเก็บสินค้าและห้องพักที่อยู่อาศัย ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นของนายพันธ์ยศ อัครอมพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ เป็นเจ้าของอาคาร
จากการตรวจค้นอาคาร พบว่า บริเวณด้านในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นออฟฟิตสำนักงานของบริษัทไทยเฮล์ทจำกัด ที่เป็นธุรกิจอาหารเสริมความงามเพื่อสุขภาพ แต่ขณะนี้ได้ปิดกิจการไปแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบห้องเก็บของบริเวณชั้นล่างพบหน้ากากอนามัยบรรจุอยู่ในลังกระดาษใหญ่ จำนวน 2 ลัง แบ่งเป็นกล่องเล็ก จำนวน 250 กล่อง บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น รวมเป็น 12,500 ชิ้น ซึ่งบริเวณหน้าลัง มีข้อความระบุว่า “ k’อลิส ฝากบริจาค ปอง 5 มี.ค. 0929987899” ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำการตรวจยึดแต่อย่างใด ก่อนจะทำการตรวจค้นเพิ่มเติมกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่พบสินค้าต้องสงสัย จึงยกเลิกภารกิจ ก่อนถอนนำกำลังกลับ
นายพันธ์ยศ อัครอมพงศ์ เจ้าของอาคาร เปิดเผยว่า อาคารดังกล่าวเป็นของตน ซึ่งแต่ก่อนเคยเปิดเป็นบริษัทไทยเฮล์ท จำกัด ธุรกิจอาหารเสริมความงามเพื่อสุขภาพ แต่ขณะนี้ได้ปิดกิจการไปแล้ว ส่วนประเด็นที่ปรากฏเป็นคลิปบนโลกโซเซียลนั้น ยอมรับว่าเป็นบริษัทของตนเองจริงและยอมรับว่ารู้จักกับนายนายศรสุวีร์ หรือ บอย ภูรวีรัศวัชรี จริง โดยรู้จักกันมาได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งมีผู้ใหญ่ในกลุ่มนักธุรกิจแนะนำให้รู้จัก หลังจากนั้นคุณบอยก็ได้ประสานของให้ตนเองหาหน้ากากอนามัยในท้องตลาด เพื่อจะนำมาบริจาคในจำนวน 1 ล้านชิ้น แต่แค่อยู่ระหว่างคุยหลายละเอียด ซึ่งต้องชี้แจงก่อนว่า สาเหตุที่คุณบอยประสานให้หาหน้ากากอนามัยที่ตนนั้น เพราะตนทำธุรกิจกับชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ เมื่อโควิด-19 เริ่มต้นระบาดที่ประเทศจีนนั้น ตนได้ประสานขอความช่วยเหลือจากทางการจีนในส่วนของฆณทลต่างๆ เพื่อให้เป็นธุระจัดหาหน้ากากอนามัยในประเทศไทยเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประเทศจีน โดยตนขอยืนยันว่าเป็นแค่ตัวกลางในการติดต่อหาหน้ากากอนามัยให้หน่วยงานภาครัฐของประเทศจีน เพื่อนำไปช่วยเหลือคนประเทศของเขา โดยตนเองไม่ได้เป็นพ่อค้าคนกลางหรือบุคคลที่กักตุนสินค้าอย่างที่สังคมกำลังเข้าใจ การจัดหาแต่ละครั้งตนได้แค่ค่าดำเนินการ แล้วแต่หน่วยงานภาครัฐของจีนดำเนินการให้ ส่วนการนำออกนอกประเทศนั้นเป็นหน้าที่ของหน่วยงานของจีนที่ประสานขอความช่วยเหลือตนเองมา ไม่ทราบจริงๆว่าเขานำออกไปอย่างไร
นายพันธ์ยศ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นของนายศรสุวีร์ หรือบอย ภูรวีรัศวัชรี นั้น ตนเองแค่พูดคุยเท่านั้น เพราะเห็นว่าคุณบอย จะนำหน้ากากอนามัยไปบริจาค ตนเองจึงรับเป็นธุระในการหาของในตลาดออนไลน์ให้เท่านั้น แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการก็มาเกิดเป็นประเด็นเสียก่อน ส่วนที่บอกว่าตนรู้จักหรือมีความเกี่ยวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นั้น ขอปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง ส่วนประเด็นที่ว่ามีภาพในโซเซียลปรากฏมีกล่องหน้ากากอนามัยจำนวนมากอยู่ในออฟฟิตตนเองนั้น ขอยอมรับว่ามีจริงแต่ไม่ได้กักตุนแต่อย่างใด เพราะตนเองเป็นคนสั่งหน้ากากอนามัยดังกล่าวมาเอง ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือหน่วยงานภาครัฐของประเทศจีนที่ ได้ประสานเข้ามาของความช่วยเหลือ ซึ่ง ก็ไม่แปลกที่จะมีของอยู่ในออฟฟิตของตนเอง มากมายขนาดนี้แต่พอสินค้ามาได้ไม่ถึงวันทาง หน่วยงานของจีนที่ประสานขอความช่วยเหลือมา ก็จะมารับ หน้ากากดังกล่าวไป ดังนั้นตนจึงขอยืนยัน ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ว่ามิได้มีการกักตุนสินค้าอย่างแน่นอน