ราคาน้ำมันในตลาดเอเชียดิ่งลงอย่างหนักในวันจันทร์ ประมาณร้อยละ 30 ซึ่งเป็นสิ่งที่บรรดานักวิเคราะห์ กำลังเรียกว่า "การเริ่มต้นของสงครามราคา" โดยซาอุดีอาระเบีย ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก หั่นราคาน้ำมันของตัวเองในช่วงสุดสัปดาห์ หลังไม่สามารถโน้มน้าวให้รัสเซียสนับสนุนข้อเสนอลดกำลังการผลิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก และรัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญ ก่อนหน้านี้ทำงานร่วมกันในการควบคุมการผลิตน้ำมัน
โดยราคาน้ำมันเบรนท์ล่วงหน้า ลงต่ำสุดมาอยู่ที่ 31.02 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในวันจันทร์ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิ่งลงรุนแรงตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อสมาชิกโอเปก 14 ชาติ ซึ่งนำโดยซาอุดีอาระเบีย ประชุมกับรัสเซีย และสมาชิกนอกโอเปก ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ส่วนราคาน้ำมันล่วงหน้าในสหรัฐ ก็ร่วงลงเกือบร้อยละ 33 เมื่อคืนที่ผ่านมา และขายอยู่ที่ 27.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
พวกเขาประชุมหารือกันเพื่อหาแนวทางรับมือกับอุปสงค์ หรือดีมานด์ ที่ลดลง อันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ทั้ง 2 ฝ่ายล้มเหลวที่จะตกลงเห็นชอบตามมาตรการต่าง ๆ ในการลดกำลังการผลิตลงอีกกว่า 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
เบื้องต้น ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันศุกร์ โดยยังมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ในตลาดเอเชียในวันจันทร์ หลังซาอุดีอาระเบียลดราคาน้ำมันลงอย่างมากให้ประเทศลูกค้าในช่วงสุดสัปดาห์
หลายประเทศในตะวันออกกลาง เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ให้หลายประเทศในเอเชีย ซึ่งรวมทั้งจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอินเดีย
เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในเอเชีย ก็พร้อมใจกันร่วงลงระเนระนาด โดยดัชนีนิคเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ดิ่งลงร้อยละ 4 และค่าเงินเยนแข็งค่า เพราะบรรดานักลงทุนแห่ไปลงทุนในสกุลเงินของญี่ปุ่น เพื่อความปลอดภัย
ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง แห่เทขายอย่างตื่นตระหนก รูดลงกว่าร้อยละ 4 ในการซื้อขายช่วงเช้า ก่อนดีดตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อย อยู่ที่ 25,207.70 จุด ร่วงลงร้อละ 3.59
ในเกาหลีใต้ ตลาดหุ้นเปิดทำการก็ร่วงลงทันที โดยดัชนีคอมโพสิต ลดลง 58.88 จุด หรือร้อยละ 2.89 อยู่ที่ 1,981.34 จุด
ทั้งนี้ การระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วนวุ่นวาย