ผลการศึกษาวิจัยล่าสุดบ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดจากประเทศจีน ในช่วงที่อุณหภูมิกำลังเป็นใจ ซึ่งทำให้การลุกลามไปทั่วโลก อยู่ในอัตรารวดเร็วสุด แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเตือน ประชาชนทั่วโลกไม่ควรคาดหวังว่า โควิด-19 จะหมดฤทธิ์เมื่อเข้าสู่หน้าร้อน เหมือนการระบาดของเชื้อโรคตามฤดูกาลอื่นๆ เช่นไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดใหญ่
การศึกษาวิจัยของทีมผู้เชี่ยวชาญ มหาวิทยาลัยซุนยัต-เซ็น ในเมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกของจีน ซึ่งเน้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนฤดูกาลและอุณหภูมิ จะส่งผลกระทบต่อการแร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากน้อยเพียงใด หรือไม่
การวิจัยทำการรวบรวมข้อมูล การติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยืนจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ระหว่างวันที่ 20 ม.ค. – 4 ก.พ. รวมถึงกว่า 400 เมืองในประเทศจีน ซึ่งพบว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดได้ดีและรวดเร็วที่สุด ในอุณหภูมิ 8.72 องศาเซลเซียส ดังนั้นกลุ่มประเทศที่มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำกว่า จะมีความเสี่ยงต่อการระบาดของไวรัสตัวนี้มากและยาวนานกว่า รัฐบาลกลุ่มประเทศเหล่านี้ต้องดำเนินมาตรการต่อสู้อย่างเข้มข้น
หนึ่งในทีมนักวิจัย กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 มีความ “อ่อนไหวสูงมาก” ต่ออุณหภูมิสูง ดังนั้นเมื่อประเทศหรือภูมิภาคที่อากาศเย็น เปลี่ยนเข้าสู่ฤดูร้อน และอุณหภูมิสูงขึ้น ความมั่นคงของโควิด-19 จะลดลง พร้อมกับการแพร่ระบาด แต่เชื้อไวรัสจะไม่หายไป เหมือนการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่ ที่จะหายไปเมื่อเข้าสุ่ฤดูร้อน
นายไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหาร โครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก มีความเห็นสอดคล้องกับทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยซุนยัต-เซ็น โดยกล่าวว่า ประชาชนไม่ควรสันนิษฐานว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 จะหายไปโดยอัตโนมัติในฤดูร้อน ผลการวิจัยของอนามัยโลกบ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังมีศักยภาพในการแพร่ระบาดได้ต่อไป แม้จะอยู่ในภาวะอุณหภูมิสูง.