เปิดจดหมายลาตาย “คณากร เพียรชนะ”

2020-03-07 23:50:27

เปิดจดหมายลาตาย “คณากร เพียรชนะ”

Advertisement

เปิดจดหมายลาตาย “คณากร เพียรชนะ” ผู้พิพากษายิงตัวเองดับ ตัดพ้อเรื่องการทำงาน วอนคนเมตตาส่งวิญญาณให้ไปสู่สุคติได้ โดยให้ทุนการศึกษาแก่ลูกที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชีนายคณากร เพียรชนะ เลขบัญชี 714-236993-0

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 มี.ค. 63 พ.ต.ท.สุริยันต์ จันทร์ใส พนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวเองภายในบ้านเลขที่ 90/61-62 ภายในหมู่บ้านกาญกนกวิลล์ 2 ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ภายหลังได้รับแจ้งจึงได้รีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิสว่างสำเร็จเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่พบว่าผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกซ้าย 1 นัด อาการสาหัส และพบอาวุธปืนตกอยู่ข้างกาย 1 กระบอก จึงได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค อ.เมืองเชียงใหม่ ทราบชื่อต่อมาคือ นายคณากร เพียรชนะ อายุ 50 ปี เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตาย 1 ฉบับด้วย

โดยภายในจดหมายเขียนถึงเพื่อนๆ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก ลงวันที่ 6 มี.ค.2563 เรื่องจดหมายลาตาย มีข้อความว่า "สืบเนื่องจากผมนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ใช้อาวุธปืนยิงตนเอง ในห้องพิจารณาคดีที่ 4 ที่ศาลจังหวัดยะลาเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ทั้งแถลงการณ์ผ่านสื่อออนไลน์แจ้งให้ประชาชนทราบถึงการแทรกแซงผลคำพิพากษา ที่ผมเป็นเจ้าของสำนวน รายละเอียดตามคำแถลงการณ์ 25 หน้าของผมซึ่งคงได้อ่านกันแล้ว ต่อมาผมถูกศาลยุติธรรม ตั้งกรรมการสอบสวน และยังถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ซึ่งผมเชื่อว่า ต้องถูกลงโทษออกจากราชการเป็นแน่ทั้งการดำเนินคดีกับผมเพิ่มจะเริ่มต้น การสูญเสียหน้าที่การงานที่รักนั้นคือการสูญเสียตัวตน ทั้งกลับกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง สภาพร่างกายและจิตใจของผมไม่อาจรับไหว เต็มไปด้วยความทุกข์เส้นทางชีวิตของผมในชาตินี้ได้ขาดลงแล้ว


ผมขอยืนยันกับเพื่อนๆ พี่น้อง ประชาชนชาวไทยทุกท่านว่าสิ่งที่ทำลงไปผมทำด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ ต้องการให้ความยุติธรรมแก่ประชาชน และไม่เสียใจที่ได้กระทำ ผมภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการให้ความยุติธรรมแก่ประชาชน

ในอดีตที่เราใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ที่ถูกร่างขึ้นโดย สสร. ประชาชนและนักวิชาการทั้งหลายต่างยอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดเท่าที่ประเทศเราเคยมีมา ท่านคงสงสัยว่าขณะใช้รัฐธรรมนูญดังกล่าวทำไมจึงไม่ให้มีการตรวจร่างคำพิพากษาในศาลชั้นต้น เพราะอะไร หรือ สสร.รู้ว่าการตรวจร่างคำพิพากษาในศาลชั้นต้นอาจเปิดโอกาสให้มีการแทรกแซงผลคำพิพากษาโดยอธิบดีผู้พิพากษาภาค ขออนุญาต ถามเพื่อนๆ พี่น้องประชาชนชาวไทยง่ายๆว่า สิ่งที่ผมทำลงไปจนถูกสอบวินัยและตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญานี้ ท่านพบความชั่วหรือความเลวอยู่ในการกระทำของผมบ้างหรือไม่ ขอทุกท่านตอบในใจเบาๆก็พอ ส่วนผมรู้คำตอบมาตั้งแต่ต้นแล้ว เสียดายที่ท่านไม่ใช่ผู้ตัดสิน

ในวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ผมไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอด แต่วันนั้นสวรรค์ทรงเมตตาให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อ เข้าใจว่า ทรงมีพระประสงค์ให้มาอยู่กับครอบครัวสักระยะหนึ่งเท่านั้นผมจึงจัดการซ่อมแซม แต่งบ้านบางส่วนให้เรียบร้อยขึ้นเพื่อให้สองแม่ลูกอยู่อย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นสอนลูกให้เข้มแข็ง สอนให้เป็นคนดี ว่า "คนดี คือ คนที่ทำในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเอง ผู้อื่น และประชาชนในกรอบของศีลธรรม"


วันที่ 6 - 7 มี.ค. 2563 เป็นวันดีลูกปิดเทอมได้หนึ่งสัปดาห์ สมควรแก่เวลา ก่อนหน้านี้ฝึกดับขันธ์บางส่วนก่อนแล้ว ดับได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังดีกว่าดับไม่ลง จึงตัดใจดับขันธ์ทั้งห้า ด้วยกำลัง ชีวิตเป็ฯเพียงแค่การเดินทางร่างกายที่แท้ไม่ใช่ของเรา ท้ายที่สุดย่อมเสื่อมสภาพกลับไปเป็นธาตุทั้งสี่ การพลัดพรากจากหน้าที่การงานหรือคนที่รักก็เช่นกัน ท้ายที่สุดย่อมต้องจาก เหลือไว้แต่ความดีในความทรงจำของผู้อื่น เพื่อดับทุกข์ จึงขอลาจากไปในเวลานี้แม้จะก่อนเวลาอันควร" นอกจากนี้ยังได้ทิ้งท้ายจดหมายว่า ป.ล.ท่านที่เมตตาผม ท่านสามารถส่งวิญญาณผมให้ไปสู่สุคติได้ โดยให้ทุนการศึกษาแก่ลูกผมที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชีนายคณากร เพียรชนะ เลขบัญชี 714-236993-0"

ต่อมาที่บริเวณด้านหน้า รพ.แมคคอร์มิค ทางด้านภรรยา ของนายคณากร ได้ทราบข่าวและรีบรุดมาที่ดูอาการโดยทันที พร้อมขอไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ ซึ่งบรรยากาศที่ด้านหน้าโรงพยาบาลเป็นไปด้วยความตึกเครียด กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุของการฆ่าตัวตายครั้งนี้มาจากความเครียดเรื่องงานที่สะสมมา กระทั่งช่วงสายนายคณากร ได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีศพของนายคณากร ทางโรงพยาบาลแมคคอร์มิค จะเก็บรักษาศพไว้ตามระเบียบของโรงพยาบาล 2 ชั่วโมง ก่อนจะส่งศพไปยังแผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่นอนอีกครั้ง แต่จากการตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตพบว่าใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงตัวเองตัดขั้วหัวใจ และมีการเตรียมความพร้อมทั้งการพิมพ์จดหมายลาตาย และการใช้อุปกรณ์เอียบัตที่อุดหูลดเสียงจากการยิงปืนใส่ไว้ที่หูด้วย ส่วนทางครอบครัวขอร้องไม่ให้มีการนำเสนอข่าว และการตั้งศพบำเพ็ญกุศลยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะนำไปไว้ที่ใด เนื่องจากต้องรอทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายก่อน และรอให้ทางโรงพยาบาลชันสูตรพลิกศพเสร็จ คาดว่าศพผู้เสียชีวิตอาจจะนำออกจากแผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้ในวันที่ 8 มี.ค. 63