โรงพยาบาลรอยัล เบิร์คเชียร์ เอ็นเอชเอส ทรัสต์ (Roray Berkshire NHS Trust) ในเมืองเรดดิ่ง ประเทศอังกฤษ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า หญิงสูงวัย อายุ 70 ปี ซึ่งมีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว กลายเป็นเหยื่อของเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกที่เสียชีวิตในสหราชอาณาจักร หลังจากถูกตรวจพบติดเชื้อไวรัสร้าย โดยผู้หญิงคนนี้ เข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นปกติอยู่แล้วจากอาการป่วยที่ไม่เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 และล่าสุดทางโรงพยาบาลตรวจพบว่าเธอติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้ติดเชื้อไวรัสในสหราชอาณาจักรที่แสดงอาการ เพิ่มเป็น 116 คนแล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 คนในเวลา 24 ชั่วโมง
ศาสตราจารย์คริส วิตตี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของอังกฤษ กล่าวว่า หญิงคนนี้ ซึ่งเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลรอยัล เบิร์คเชียร์ เมืองเรดดิ่ง เชื่อว่าติดเชื้อไวรัสในสหราชอาณาจักร เธอไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังพยายามติดตามตัวประชาชนที่เธอไปติดต่อใกล้ชิดด้วย มาตรวจร่างกาย ศาสตราจายร์วิตตี แสดงความเสียใจสุดซึ้งต่อครอบครัวและเพื่อนของผู้เสียชีวิต และเรียกร้องให้เคารพความเป็นส่วนตัวของครอบครัวเหยื่อด้วย
ศาสตราจารย์วิตตี ซึ่งเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคต ส.ส.อังกฤษอาจได้รับผลกระทบจากคำแนะนำจากทางรัฐบาลเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวรับมือกับระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยบอกว่า คนสูงอายุอาจได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงสถานที่สาธารณะ
ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ ก็ออกมาแสดงความเห็นใจต่อเหยื่อและครอบครัว พร้อมทั้งย้ำว่า สหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในขั้นตอนการควบคุมโรค ซึ่งเป็นขั้นแรกของมาตรการตอบโต้การระบาดของไวรัส โดยอังกฤษกำหนดแผนไว้ 4 ขั้นตอนในการจัดการกับการระบาดของไวรัส ซึ่งประกอบด้วย การควบคุมไวรัส, การชะลอการแพร่กระจาย, การวิจัยหาต้นตอและการบรรเทาผลกระทบ
นายจอห์นสัน กล่าวอีกว่า ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่แพทย์กำลังเตรียมการในขั้นตอนต่อไป คือขั้นตอนการชะลอการระบาดของไวรัส ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการเพื่อคุมเข้มการเดินทางของประชาชน นอกจากนี้ จอห์นสัน ยังย้ำคำแนะนำของเขาที่มีต่อประชาชนก่อนหน้านี้ โดยบอกว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่ประชาชนควรทำในเวลานี้ คือใช้ชีวิตปกติ แต่ให้ล้างมือเป็นประจำ