สธ.ยกระดับคุมเข้ม “ผีน้อย” เข้าไทยก่อน 4 มี.ค. ต้องกักตัวเองในบ้าน 14 วัน มีเจ้าพนักงานคุมเข้ม หลังขอความร่วมมือแล้วยังออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ลั่นหากยังฝ่าฝืนมีโทษปรับ 2 หมื่นบาท
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับแรงงานที่เดินทางกลับเข้าไทยก่อนที่จะมีข้อสั่งการเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งกระทรวงมีคำแนะนำให้แยกสังเกตอาการของตัวเองในที่พัก 14 วัน แต่ก็ยังพบว่ามีคนในกลุ่มนี้ออกไปมีกิจกรรมทางสังคม ไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ไปร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกันของกลุ่มคน ดังนั้นกระทรวงจึงต้องยกระดับสำหรับคนที่เดินทางกลับเข้ามาก่อนหน้านี้ และยังไม่พ้นช่วง 14 วัน ซึ่งผู้มีรายชื่อทั้งหมด จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยจะมีเจ้าพนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ไปตรวจติดตาม เฝ้าระวังโรคอย่างเคร่งครัด จนครบไม่น้อยกว่า 14 วัน ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 34 (1) พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หากจะออกนอกพื้นที่ต้องแจ้งเจ้าพนักงานให้ทราบเพื่อพิจารณาและให้คำแนะนำมาการป้องกันตัวเองและสังคม ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าท่านมาจากประเทศเสี่ยง แม้ตอนนี้จะสบายดี ไม่ติดเชื้อ แต่เพื่อเป็นการป้องกันโอกาสเกิดการระบาดของโรคก็ต้องทำ เรื่องนี้เป็นจิตสำนึกที่ต้องมีต่อสังคม ขณะที่สังคมก็ต้องรับผิดชอบด้วยการไม่รังเกียจ ไม่ตีตรา ย้ำอีกครั้งโดยรวมเราจะสามารถผ่านสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้ต้องอาศัยความรับผิดชอบของทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีรายงานแรงงานไทยที่เพิ่งกลับจากเกาหลีใต้ไม่ยอมกักตัวเอง 14 วัน แต่พาครอบครัวไปรับประทานหมูกระทะนอกบ้าน ที่ จ.เชียงราย จนร้านต้องปิด 1 วันเพื่อทำความสะอาด นพ.โสภณ กล่าวว่า ทุกคนเมื่อกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงก็ควรรับผิดชอบกับตัวเองครอบครัวและสังคม ถึงแม้จะไม่ป่วยก็ควรมีการกักตัวเองอยู่กับบ้าน 14 วัน และขอให้แยกตัวออกจากครอบครัวด้วยซ้ำ ที่ยังไปกินหมูกระทะกันอยู่ คนเสี่ยงที่สุดคือคนในครอบครัวเขาเอง ส่วนคนที่กินในร้านไม่มีความเสี่ยง เพราะอยู่กับความร้อน