“ทนายรณรงค์” รุดแจ้งความตำรวจ หลังถูกเหล่าผีน้อยรวมตัวขู่ฆ่า กรณีออกมาเรียกร้องเรื่องการไม่ให้ผีน้อยกลับมาเมืองไทยโดยไม่มีการกักตัวเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19
เมื่อเวลา 20.00น. วันที่ 4 มี.ค. ที่ สภ.ปากเกร็ด นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ภัทรกร ชายนัอย รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานพร้อมทั้งให้ช่วยติดตามตัวผู้ที่ข่มขู่จะฆ่าตนเองและเผาสำนักงานทนายความ โดยนายรณรงค์ ทนายความชื่อดัง เปิดเผยว่า ได้ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งข่มขู่ตั้งเขตอันตรายห้ามเข้า ได้นำรูปไปโพสต์ขู่ฆ่าลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก โดยระบุข้อความว่า "ไอ้****นี้ต้องตายด้วยลูกปืนกูคนแรกของเมืองไทย " พร้อมด้วยผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายหนึ่งได้ส่งข้อความหาเพจ “ทนายคู่ใจ” ว่า "พูดอะไรให้ผีน้อยมึงพูดนักเลงจังไอ....ใครไปขอเงินมึงไอ....เงินกูเผามึงได้เลยไอ....." ตนจึงรู้สึกกลัวว่าจะมีคนมายิงและเผาสำนักงาน จึงรวบรวมหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ทนายรณรงค์ กล่าวว่า เวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนมาข่มขู่เผาสำนักงานและขู่ฆ่า จึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด เนื่องจากได้ออกมาเรียกร้องเรื่องของการที่ไม่ให้ผีน้อยหรือแรงงานเถื่อนที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของเกาหลีกลับมาเมืองไทยโดยที่ไม่มีการกักกันอะไรเลย ปรากฏว่ามีกลุ่มผู้เสียประโยชน์เข้ามาพยายามข่มขู่คุกคามหลายคน แต่นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง และจะทยอยเข้าแจ้งความกล่าวทุกข์เรื่อยๆ ก็หวังว่าอยู่เกาหลีกลับมาเมืองไทยกักกันโรค 14 วันแล้วก็ต้องถูกดำเนินคดีต่อ ตนมีความหวาดกลัวอย่างมากที่มีคนขู่จะมาเผาสำนักงานและขู่ยิงอีก ก็เลยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ปากเกร็ด ข้อหา ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ จึงวอนสังคมให้เห็นใจด้วยไม่อยากมีเรื่องกับผีน้อย แต่ทุกอย่างต้องว่ากันตามกฎหมาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำทนายรณรงค์เพื่อติดตามตัวคนที่โพสต์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
