การแข่งขันชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อลงสู้สึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2020 กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของพรรครีพับลิกัน ในวันที่ 3 พ.ย.ปลายปีนี้ ใกล้จะเหลือทางเลือกแค่ 2 คน ระหว่าง อดีตรองประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน กับนายเบอร์นี แซนเดอร์ หลังการเลือกตั้งเบื้องต้นครั้งใหญ่พร้อมกัน 14 รัฐ “ซูเปอร์ ทิวส์เดย์” เมื่อวันอังคารที่ 3 มี.ค. ปรากฏว่าไบเดนคว้าชัยชนะได้ถึง 9 รัฐ กักตุนคะแนนเสียง “คณะผู้เลือกตั้ง” ขึ้นนำหน้า
การเลือกตั้งเบื้องต้น “ซูเปอร์ ทิวส์เดย์” เมื่อวันอังคาร แบบไพรมารี่ใน 14 รัฐ และแบบคอคัส ที่อเมริกัน ซามัว ดินแดนโพ้นทะเลของสหรัฐ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ไบเดนวัย 77 ปี ได้เสียงสนับสนุนจากคณะผู้เลือกตั้งมากที่สุด ในบรรดาผู้แข่งขันชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตที่เหลืออยู่ 5 คน ใน 10 รัฐ รวมถึงรัฐเทกซัส และรัฐแมสซาชูเซตส์ ส่วนแซนเดอร์ วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ 3 สมัยวัย 78 ปี ชนะใน 4 รัฐ รวมถึงรัฐใหญ่สุดในบรรดา 14 รัฐคือ แคลิฟอร์เนีย
การแข่งขันชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต นับถึงสิ้นสุด “ซูเปอร์ ทิวส์เดย์” ไบเดนกักตุนเสียงสนับสนุนจาก “คณะผู้เลือกตั้ง” ได้แล้ว 523 เสียง ตามด้วยแซนเดอร์ 462 เสียง และนางเอลิซาเบ็ธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์วัย 70 ปี 53 เสียง โดยซูเปอร์ ทิวส์เดย์ นางวอร์เรนไม่ชนะแม้แต่รัฐเดียว รวมถึงรัฐแมสซาชูเซตส์ ถิ่นฐานเสียง ทำให้เธอมีแนวโน้มว่าจะประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขันในเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน หลังสิ้นสุดซูเปอร์ ทิวส์เดย์ นายไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีธุรกิจสื่อ และอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ซึ่งคว้าชัยชนะได้เพียงแค่ดินแดนอเมริกัน ซามัว ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขั้นอย่างเป็นทางการ หลังตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันได้เพียง 3 เดือนเศษ ๆ และทุ่มเงินในการรณรงค์หาเสียง มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ หรือ 15,720 ล้านบาท
การแข่งขันยังเหลืออีกหลายสิบรัฐ และผู้แข่งขันจะต้องได้เสียงสนับสนุนจาก “คณะผู้เลือกตั้ง” อย่างน้อย 1,991 เสียง จากทั้งหมด 3,979 เสียง จึงจะเป็นผู้ชนะสุดท้าย และได้รับการประกาศให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมรคต ในระหว่างการประชุมใหญ่พรรค ในเดือน ก.ค.