เมือวันจันทร์ (2 มี.ค) ผู้นำองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) อิตาลี อิหร่าน และญี่ปุ่นกลายเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่สุด
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรียซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกระบุถึงสถิติของ เกาหลีใต้ในการรายงานข่าวสั้นประจำวันว่า เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อทะลุ 4,200 ราย เสียชีวิตแล้ว 22 ราย ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนทั้งหมด โดยรายงานข่าวล่าสุดระบุว่าปัจจุบันเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อแล้ว 4,812 ราย เสียชีวิตแล้ว 34 ราย
อย่างไรก็ตาม กีบรียซุสระบุว่าผู้ติดเชื้อในกาหลีใต้ ส่วนมากมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคน 5 กลุ่ม มิใช่การระบาดใน ชุมชนทั่วไป ซึ่งบ่งชี้ว่า การดำเนินมาตรการเฝ้าระวังนั้นมีประสิทธิภาพ และเกาหลีใต้ยังสามารถควบคุมสถานการณ์การ แพร่ระบาดได้
"สถานการณ์ในเกาหลีใต้ชี้ชัดว่าเชื้อไวรัสนี้มีลักษณะเฉพาะ และไม่ใช้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่" (nfuenza virs) กีบรีเยชุสอธิบายว่าหากโควิด 19 เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันคงเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว และจะไม่สามารถยับยั้งหรือควบคุมได้
"แต่เรายังสามารถควบคุมโควิด-19 ได้ และทุกประเทศจำเป็นต้องให้ความสำคัญสูงสุดกับภารกิจนี้" กีบรียชุสย้ำ "ทุกประเทศต้องดำเนินมาตรการเชิงรุกโดยเร็ว จึงจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดและช่วยชีวิตประชาชนได้"
เมื่อวันจันทร์ (2 มี.ค.) หน่วยงานสาธารณสุขอิหร่านรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตในอิหร่านอยู่ที่ 66 ราย ผู้ติดเชื้อทั้งหมด
1,501 ราย และหายดีแล้ว 291 ราย
กีบรียซุสระบุว่า ช่วงบ่ายวันจันทร์ ทีมเจ้าหน้าที่เดินทางถึงอิหร่าน เพื่อส่งข้าวของเครื่องใช้ และให้การสนับสนุนรัฐบาลอิหร่านในการต่อสู้กับโรคระบาด
จากรายงานล่าสุดในวันอังคาร (3 มี.ค.) เวลา 09.45 น. อิตาลีตรวจพบผู้ติดเชื้อแล้ว 2,036 ราย มีผู้เสียชีวิต 52 ราย หายจากอาการป่วย 149 ราย อาการสาหัส 166 ราย
รายงานล่าสุดระบุด้วยว่ามีผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นรวม 980 ราย โดยเป็นผู้ป่วยจากเรือสำราญไดมอนด์ ปรินเซส (Diamond Princess) 706 ราย ซึ่งปัจจุบันถูกกักตัวอยู่ที่เมืองโยโกฮาม่า