สธ.เร่งขอรายชื่อผีน้อย ติดตามตัวป้องกัน "โควิด-19"

2020-03-03 13:30:16

สธ.เร่งขอรายชื่อผีน้อย ติดตามตัวป้องกัน "โควิด-19"

Advertisement

สธ. เร่งขอรายชื่อผีน้อย เพืื่อตามตัวป้องกัน "โควิด-19" วอนอย่าตีตราจะทำให้แรงงานไม่กล้ารายงานตัว แจง รพ.บางแห่งขาดแคลนหนักต้องเย็บหน้ากากใช้เอง เป็นส่วนงานออฟฟิศ ไม่สัมผัสผู้ป่วย

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 43 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยังรักษาใน รพ.11 ราย ส่วนยอดผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังสะสมตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. – 2 มี.ค. 3,519 ราย กลับบ้านแล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 2,099 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังรักษาใน รพ.1,420 ราย ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนชะลอไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในวงกว้าง โรคนี้ป้องกันได้ด้วยการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ใส่หน้ากากอนามัย ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือสู้ไปด้วยกัน


อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเชื้อโรคที่ต้องควบคุมตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.เชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ.2558 กำหนดให้เป็นเชื้อโรคควบคุมในกลุ่มที่ 3 หากผู้ใดต้องการครอบครอง ต้องขออนุญาตเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.เชื้อโรค

นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับกรณีแรงงานไทยในเกาหลีใต้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้มีการรายงานออกมาหลายๆ ตัวตัวเลขนั้นอยู่ระหว่างประสานขอข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงคมนาคม และกระทรวงแรงงาน เพื่อขอข้อมูลที่ชัดเจนทั้งตัวเลขและรายชื่อ เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้ หากเป็นไปได้อยากได้ข้อมูลภายในวันนี้ ทั้งนี้ในฐานะคนไทย ทุกคนเป็นพี่น้อง เป็นครอบครัวเดียวกัน จึงไม่มีการห้ามเข้าประเทศ แต่เข้ามาแล้วต้องเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด ซึ่งในกรณีที่ต้องเฝ้าระวังที่บ้านก็จะมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) กว่าล้านคนคอยให้สอดส่องเคาะประตูบ้าน หากมีจำนวนมากอาจจะมีการจัดหาสถานที่ให้เช่นเดียวกับกรณีที่รับคนไทยกลับมาจากอู่ฮั่น ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนอย่าตีตรา อย่ากลัวเพราะจะทำให้แรงงานไม่กล้ารายงานตัว อย่างไรก็ตามคนที่เข้ามาแล้วหากรายงานไปที่สายด่วน 1422 หรือเพื่อนบ้านโทรแจ้งได้ จะเป็นประโยชน์กับประเทศมาก ซึ่งเราเก็บข้อมูลเป็นความลับอยู่แล้ว ส่วนที่มีรายงานว่าที่สนามบินตรวจพบผู้ติดเชื้อที่สนามบิน 8 ราย นั้น ตนยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด แต่ในทางปฏิบัติทางสนามบินยังตรวจเชื้อเองไม่ได้ มีเพียงระบบการคัดกรองที่เข้มข้น และคัดแยกคนเสี่ยง หากมีไข้ ไอ เจ็บคอก็จะเข้าข่ายผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง แล้วนำส่งรพ.เพื่อตรวจยืนยันเชื้อ โดยให้เข้าอยู่ในห้องแยกโรคถ้าพบเชื้อก็อยู่ในห้องแยกโรคเพื่อรักษา หากไม่พบเชื้อแต่มีการป่วยอย่างอื่นก็ให้รักษาอาการป่วยนั้นก่อน หายแล้วถึงให้กลับบ้าน

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับหน้ากากอนามัยในสถานพยาบาลขาดแคลนนั้น เบื้องต้นมีบางพื้นที่ขาด บางพื้นที่เพียงพอ บางพื้นที่ก็เกิน ซึ่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขสั่งให้บริหารจัดการใจจังหวัด ในเขตสุขภาพได้ พร้อมสำรวจสต็อกและความต้องการใช้เพิ่มเติม ซึ่งจะมีการรายงานผลเข้ามาที่ส่วนกลางในวันที่ 4 มี.ค.

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้มีกระแสว่าสถานพยาบาลหลายแห่งขาดแคลนหนักถึงขั้นต้องเย็บหน้ากากอนามัยชนิดผ้าใช้ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงเพราะว่าเป็นผู้ปฏิบัติงานสัมผัสกับเชื้อโรคนั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า การใช้หน้ากากอนามัยชนิดผ้านั้นมีการใช้อยู่ในส่วนงานที่ไม่มีการสัมผัสผู้ป่วย เช่น เจ้าหน้าที่ออฟฟิศ อย่างไรก็ตาม หากที่ไหนขาดจริงๆ ก็สามารถแจ้งเข้ามา

ด้าน นพ.สมพงษ์ ชัยโอภานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ กรมอนามัย กล่าวว่า กรณีมีการจับกุมเครือข่ายนำหน้ากากอนามัยใช้แล้วมาซักเพื่อจำหน่ายต่อนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่หน้ากากที่ใช้ในรพ. ก็ถือว่าคลายกังวลเรื่องเชื้อโรคไปบ้าง แต่ไม่ว่าหน้ากากจะมาจากที่ไหนก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะนำมาใช้ต่อ ทั้งนี้หน้ากากอนามัยที่มาจากแหล่งอื่นจะถือเป็นสิ่งปฏิกูลที่ต้องมีข้อกำหนดเรื่องการทิ้งและทำลาย และห้ามเอาไปใช้ต่อ หากฝ่าฝืนจะผิดหมวด 3 การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 มีโทษทั้งจำทั้งปรับ