“หมอธีระวัฒน์” ชี้หน้ากากอนามัยสำคัญสำหรับ “หมอ-พยาบาล”

2020-03-03 12:17:59

“หมอธีระวัฒน์” ชี้หน้ากากอนามัยสำคัญสำหรับ “หมอ-พยาบาล”

Advertisement

“หมอธีระวัฒน์” ระบุการใส่หน้ากากใน รพ.สำหรับหมอ พยาบาลที่ดูผู้ป่วยเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้ว แม้จะไม่สามารถป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ลดความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง ที่ผ่านมาจังหวัดหนึ่งมีผู้ป่วยโควิด-19 แต่ไม่มีหน้ากากอนามัย จำเป็นต้องใช้หน้ากากผ้าแทน ไม่ใช่ไม่อยากใช้แต่เพราะไม่มีจริงๆ

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเพจ "ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha" ระบุว่า เรื่องการใส่หน้ากาก การใส่หน้ากากในโรงพยาบาลสำหรับหมอและพยาบาลที่ดูผู้ป่วยเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้ว และถึงแม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันได้ 100เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ลดความเสี่ยงได้ระดับหนึ่งโดยที่ต้องมีการใส่และถอดอย่างถูกวิธี คำถามที่ว่าในโรงพยาบาลนั้นจะใช้หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยมีการศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร BMJ 2015 (ข้อมูลแนะนำโดยรองอธิบดีกรมควบคุมโรคคุณหมอธนรักษ์) โดยเปรียบเทียบประสิทธิภาพ เมื่อต้องดูแลผู้ป่วยที่มีติดเชื้อรุนแรงหรืออยู่ในห้องผู้ป่วยอาการหนัก และพบว่าหน้ากากอนามัยนั้นดีกว่า (ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว) แต่ไม่ได้หมายความว่าการใส่หน้ากากผ้าจะไม่มีความหมายเพราะเนื่องจากการศึกษานั้นไม่ได้เปรียบเทียบการไม่ใส่หน้ากากเลยเทียบกับหน้ากากผ้า

อย่างไรก็ตามในโรงพยาบาลนั้น ในเวลาที่ผ่านมาไม่นานในประเทศไทยเองที่จังหวัดหนึ่งและมีผู้ป่วย Covid19 ปรากฏว่าหมอและพยาบาลไม่มีหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ไม่ต้องพูดถึงหน้ากาก N 95 ซึ่งไม่มีแน่ เลยจำเป็นต้องใช้หน้ากากผ้าและเสื้อคลุมผ้าแบบที่ใช้ในห้องผ่าตัดสมัยก่อน ซึ่งซักล้างได้และมาใช้ใหม่ได้ ดังนั้นไม่ใช่ว่า ไม่อยากใช้หน้ากากอนามัยแต่เพราะไม่มีจริงๆเลยใช้สิ่งที่มีอยู่อย่างน้อยก็ยังลดความเสี่ยงลงไปได้บ้าง

สำหรับหน้ากาก N95 ถ้าใส่แล้วไม่แนบแน่นสนิทชิดมีรั่วอาจใช้เทปปิดรอยรั่วเช่นนั้นได้ซึ่งอาจจะลดการรั่ว 12เปอร์เซ็นต์ เหลือ 2 เปอร์เซ็นต์ตามข้อมูลของท่านอาจารย์ขจรศักดิ์ที่สงขลานครินทร์ หรือโดยใช้หน้ากาก elastomeric mask

สำหรับประชาชนทั่วไปความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อนั้นน้อยกว่าบุคลากรทางสาธารณสุขที่ทำงานในโรงพยาบาลมากมาย ทั้งนี้คนที่อยู่รอบตัวเรานั้นไม่ได้ติดเชื้อทุกๆคน 

ดังนั้นหน้ากากผ้าก็อาจจะใช้ได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันละอองฝอยที่อาจมีเชื้อ เข้ามาปะทะบริเวณเยี่อบุปากจมูก (ก็ต้องระวังเยี่อบุตาด้วย ) ในกรณีที่อยู่ในที่นั้นนานๆที่มีคนหนาแน่น ห่างกันน้อยกว่าหนึ่งถึง 2 เมตร

ทั้งนี้ หน้ากากผ้ามีข้อจำกัดจริงเนื่องจากจะชุ่มและไม่มีตัวกรองเชื้อโรคแต่ถือว่าสามารถใช้ป้องกันได้ระดับหนึ่งโดยที่สามารถใช้ซ้ำได้เอาไปซักล้างใหม่ และแน่นอนต้องล้างมือบ่อยที่สุดด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์และถ้าการใส่และถอดหน้ากากไม่ถูกต้อง ก็เป็นการส่งผ่านเชื้อเข้าเยื่อบุตา ปากจมูก จากมือของเราเอง ถ้าเดินอยู่คนเดียวในสวนลุมไม่มีมนุษย์อยู่แถวนั้นจะไม่ใส่หน้ากากก็ไม่เสียหาย ยกเว้น PM2.5 ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องใส่หน้ากาก N95 ส่วนผู้ที่ไม่สบายแน่นอนต้องใส่หน้ากากอนามัยที่จะคอยป้องกันละอองฝอยออกไปสู่ผู้อื่น

“เราทำงานนี้ ทั้งหมดด้วยจิตบริสุทธ์ ใช้ความรู้ ประสบการณ์ ใช้เครือข่ายความรู้ทั้งในและนอกประเทศ เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศรับทราบสถานการณ์ เพื่อปรับตัวและรักษาตัวเองและครอบครัวและเพื่อคนไทยและประเทศไทยของเรา สิ่งที่พูดมาทุกอย่างอาจจะไม่ถูกใจใครไปบ้าง แต่เพื่อส่วนรวมครับเพื่อสิ่งที่เราทำดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปกว่านี้” เคารพทุกท่าน

ขอบคุณเพจ"ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha"