ในวันอังคาร นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ประกาศชัยชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 3 ในรอบไมถึง 1 ปี ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากผลสำรวจความคิดเห็นหน้าคูหาเลือกตั้งของสถานีโทรทัศน์อิสราเอล พบว่า เขาชนะการเลือกตั้ง โดยขาดอีกที่นั่งเดียวก็จะได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
ชัยชนะของนายเนทันยาฮู วัย 70 ปี หลังผลการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนเมษายนและกันยายน ปีที่แล้วไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ จะเป็นเครื่องยืนยันถึงความทนทานทางการเมืองของผู้นำที่อยู่ในอำนาจนานที่สุดของอิสราเอลผู้นี้ ซึ่งรณรงค์หาเสียงล่าสุดขณะกำลังเผชิญหน้ากับคดีคอร์รัปชั่นอื้อฉาว ที่รอวันขึ้นศาลในวันที่ 17 มีนาคมนี้
ชัยชนะครั้งนี้ อาจปูทางให้เนทันยาฮูได้ทำตามคำมั่นสัญญาที่จะผนวกเอาที่ตั้งถิ่นฐานชาวยิว ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์และหุบเขาจอร์แดนหลังการเลือกตั้ง ภายใต้ข้อตกลงสันติภาพที่เสนอโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ซึ่งปาเลสไตน์ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยบอกว่า เป็นการทำลายความฝันของพวกเขาที่จะสถาปนารัฐอิสระขึ้นในเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซา ดินแดนที่อิสราเอลยึดครองในสงครามตะวันออกกลางปี 2510
สถานีโทรทัศน์ 3 ช่องหลักของอิสราเอล รายงานผลเอ็กซิตโพลว่า พรรคลิคุด พรรคฝ่ายขวาของนายเนทันยาฮูและพรรคร่วม จะได้ 60 ที่นั่ง จากจำนวนส.ส.120 ที่นั่งในรัฐสภา น้อยกว่าเสียงข้างมากอยู่ 1 ที่นั่ง ขณะที่ โทรทัศน์ช่อง 13 รายงานอัพเดตตัวเลข ลดลงมาเหลือ 59 ที่นั่งเท่านั้น ทำให้ขาดไป 2 ที่นั่งของเสียงข้างมาก ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะส่งให้เกิดภาวะชะงักงันทางการเมืองอีก