พปชร. ให้ ส.ส.ทำความเข้าใจ ปชช.ปฏิบัติตามประกาศโรคติดต่ออันตราย

2020-03-02 18:25:43

พปชร. ให้ ส.ส.ทำความเข้าใจ ปชช.ปฏิบัติตามประกาศโรคติดต่ออันตราย

Advertisement

 พปชร. ให้ ส.ส.ทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ ปฏิบัติตามประกาศโรคติดต่ออันตราย งดไปประเทศกลุ่มเสี่ยง 11ประเทศ หวังสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19ป  ว่า พรรคพลังประชารัฐขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นรายแรกในประเทศไทย เมื่อมีผู้เสียชีวิตภายในประเทศย่อมเป็นการกระตุ้นเตือนให้ทุกฝ่ายเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ในการรับผิดชอบต่อตนเองและรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ของประเทศ เพื่อยกระดับการรับมือการแพร่ระบาดให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้ส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรค ปฏิบัติตามและช่วยกันรณรงค์ทำความเข้าใจกับประชาชนและองค์กรต่างๆในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยประกาศนี้เป็นการกำหนดมาตรการเพื่อการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคติดต่อให้มีประสิทธิภาพ โดยอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน มีการกำหนดหน้าที่และอำนาจของผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ดังนี้ 1. ในกรณีการเฝ้าระวังโรคติดต่ออันตราย เจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้าน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล เจ้าของหรือผู้ควบคุมสถานประกอบการหรือสถานที่อื่นใด ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในกรณีที่พบผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อ ซึ่งหากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท 2. ในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อมีอำนาจดำเนินการให้ผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย หรือผู้ที่เป็นผู้สัมผัสโรคหรือเป็นพาหะ มารับการตรวจหรือรักษา หรือรับการชันสูตรทางการแพทย์ และเพื่อความปลอดภัยอาจดําเนินการโดยการแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต ณ สถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกําหนดจนกว่าจะได้รับการตรวจและการชันสูตรทางการแพทย์ว่าพ้นระยะติดต่อของโรคหรือสิ้นสุดเหตุอันควรสงสัย

รองโฆษก พปชร.กล่าวอีกว่า  ขอให้ประชาชนและทุกภาคส่วนร่วมมือปฏิบัติเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่กระจายโรคไปสู่ผู้อื่น โดยงดเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง 11 ประเทศ ได้แก่ 1.เกาหลีใต้  2.ไต้หวัน  3.จีน  4.มาเก๊า  5.ฮ่องกง  6.ญี่ปุ่น  7.สิงคโปร์  8. อิหร่าน  9. อิตาลี  10. เยอรมนี  11. ฝรั่งเศส  นอกจากนี้หากเพิ่งเดินทางหรือมีการสัมผัสผู้ที่เดินทางไปยังประเทศดังกล่าว ขอให้เฝ้าระวังอาการ กักตัวเอง รวมถึงให้ข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นจริงครบถ้วนเพื่อการรักษาสุขภาพของประชาชนและควบคุมการแพร่ระบาด

“ขอให้พี่น้องประชาชน ตระหนักว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นอันตราย ขอให้ความร่วมมือรับฟังข้อมูลและคำแนะนำในการปฏิบัติตัวจากกรมควบคุมโรค เพื่อร่วมกันดูแลสุขภาพของตนเองและคุ้มครองปกป้องสุขภาพของคนอื่น ควรงดการเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือเมื่อกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือการเฝ้าสังเกตอาการตนเองจนครบ 14 วัน พยายามให้มีคนมาสัมผัสตัวเองน้อยที่สุด ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ กินอาหารร้อน ใช้ช้อนกลางหรือแยกสำรับ และหากเริ่มมีอาการป่วย มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย ให้รีบไปตรวจและแจ้งประวัติตามความจริง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามสายด่วนกรมควบคุมโรค1422 โดยหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลายและยุติลงโดยเร็ว ประชาชนทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง” รองโฆษก พปชร. กล่าว