จับกุมอดีตนายทหารเรือยศเรือตรีวัยดึกยิงลูกหนี้ดับ หลังย่องกบดานที่บ้านญาติย่านบางนา
จากกรณีเรือตรีทองดี (สงวนนามสกุล) นายทหารเรือเกษียณอายุราชการ วัย 70 ปี ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายไชยา เปลี่ยนทรง อายุ 53 ปี เสียชีวิต หลังเผชิญหน้ากันที่หน้าร้านขายของชำ ในชุมชนโค้งจระเข้ ซอยอุดมเดช ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เหตุเพียงแค่ทวงหนี้เงินที่ผู้ตายยืมไปหลายครั้งประมาณ 6 พันบาทจนเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนที่เรือตรีทองดี ผู้เป็นเจ้าหนี้จะชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่พกติดตัวจ่อยิงนายไชยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในระหว่างนำส่ง รพ. ก่อนหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 มี.ค. พ.ต.อ. เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมือง สมุทรปราการ พ.ต.ท.นพดล ช่างเรือน รอง ผกก.สส.สภ.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันติดตามจับกุมตัวเรือตรี ทองดี คงเป็นสุข อดีตนายทหารเรือเกษียณอายุราชการ วัย 70 ปี ผู้ก่อเหตุที่หลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านญาติในย่านบางนา กรุงเทพมหานคร ได้พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีกจำนวน 7 นัด ที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.เมือง สมุทรปราการ ซึ่งเรือตรีทองดี ผู้ก่อเหตุมีสีหน้าเรียบเฉย โดยไม่ได้เอ่ยปากให้สัมภาษณ์ ถึงปมเหตุกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด
ในชั้นการสอบสวนเรือตรี ทองดี ผู้ก่อเหตุเบื้องต้น ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายไชยาจนเสียชีวิตจริง เนื่องจากทั้งสองคนเคยมีเรื่องบาดหมางใจกันมาก่อน โดยก่อนหน้านี้นายไชยา ผู้ตาย ได้มายืนเงินไปจำนวน 6 พันบาท และไม่ยอมคืนให้ ทั้งที่เรือตรี ทองดี พยายามทวงถามมาเกือบ 1 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่ได้คืน กระทั่งวันเกิดเหตุตนและนายไชยา มาเจอกันโดยบังเอิญ ขณะที่นายไชยา ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดรอภรรยาอยู่ที่บริเวณโค้งจระเข้ ตนและนายไชยา ผู้ตายได้มีปากเสียงกัน อีกครั้ง ก่อนที่ตนจะชักอาวุธปืนออกมายิงผู้ตายไป 1 นัด กระสุนเจาะเข้าที่เหนือราวนมขวา ซึ่งขณะนั้นผู้ตายยังไม่เสียชีวิต ได้วิ่งไปฟุบอยู่ที่หน้าร้านขายของชำกลางซอย ตนจึงได้วิ่งหลบหนีออกมาทางปากซอยก่อนว่าจ้างรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งที่ปากซอยอุดมเดช และนั่งรถแท็กซี่ไปกบดานที่บ้านญาติในย่านบางนา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปจับกุมตัว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนเข้าไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนนำไปฝากควบคุมเอาไว้ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาบน สภ.เมือง สมุทรปราการ รอการฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ด้าน พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้เปิดเผยว่า ในเรื่องที่เกิดขึ้นหลักๆ แล้วเท่าที่สอบสวนน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ผู้ตายเคยไปยืมเงินของผู้ก่อเหตุมา ส่วนในเรื่องชู้สาว จากการสอบสวนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร ส่วนในเรื่องอื่น ๆ ขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้ขอปรึกษากับฝ่ายกฎหมายก่อนและยังไม่ขอให้การในรายละเอียดอื่น ๆ และเท่าที่สอบสวนมาในวันที่เกิดเหตุทั้งสองมาเจอกันโดยบังเอิญ และทั้งสองเคยมีปัญหากันมาก่อน ส่วนอาวุธปืนเท่าที่สอบสวนผู้ก่อเหตุนำติดตัวมาด้วย ส่วนในเรื่องกระแสที่ว่าทางผู้ก่อเหตุไปติดพันลูกสาวของผู้ตายนั้นตนก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่เท่าที่สอบสวนไม่มีในเรื่องนี้