เจ้าหน้าที่คุมตัวพนักงานรถไฟก่อเหตุปลุกปล้ำผู้โดยสารซึ่งเป็นภรรยานายตำรวจมาสอบสวนดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ
วันที่ 2 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นหญิงวัย 28 ปี และเป็นภรรยาตำรวจนายหนึ่ง เข้าแจ้งความจับนายณัฐนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปีเป็นพนักงานห้ามล้อและตรวจตั๋ว การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่สถานีตำรวจรถไฟทุ่งสง โดยผู้เสียหายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้พาลูกสาววัย 12 ปี เดินมาเยี่ยมพ่อแม่ ที่ อ.ทุ่งสง ซื้อตั๋วรวมอยู่ตู้นอนที่ 10 ที่นั่งเบอร์ 17 เป็นรถด่วนขบวนที่ 85 กรุงเทพฯ – นครศรีธรรมราช และขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ กรุงเทพ ฯ
ระหว่างขบวนรถไฟเดินทาง มีนายณัฐนันท์ พนักงานรถไฟ เดินตรวจตั๋วและแจ้งว่านอนได้เตียงละ 1 คน พร้อมกับอาสาช่วยหาที่นอนให้เป็นตู้นอนหนึ่งที่อยู่ถัดตู้ที่ลูกสาวนอนไป 3 ตู้ พร้อมกับจัดเครื่องนอนให้เรียบร้อย ตอนนั้นไม่คิดระแวงเพราะไม่มีอะไรผิดปกติ กระทั่งตนเคลิ้มหลับ ส่วนนายณัฐนันท์ ผู้ก่อเหตุ ย้อนกลับมาอีกครั้ง แล้วใช้ผ้าห่มคลุมร่างและนอนทับร่างตนพยายามปลุกปล้ำหมายขืนใจ ตนพยายามดิ้นรนสุดชีวิตจนหลุดแล้ววิ่งหนีไปหาลูกสาว แล้วร้องโวยวายขอความช่วยเหลือ จนผู้โดยสารคนอื่นๆ แจ้งตำรวจรถไฟเข้าตรวจสอบและล็อกตัวนายณัฐนันท์ ผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้
สอบสวนนายณัฐนันท์ ผู้ก่อเหตุ ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้กระทำตามที่ผู้เสียหายระบุ เพียงแต่นำผ้าห่มไปให้เท่านั้น ซึ่งทางตำรวจจะสอบสวน และหาหลักฐานเพื่อดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ก่อเหตุ ปล่อยตัวไป เนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
ขณะที่ ผู้เสียหาย ยืนยันว่า ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เนื่องจากรถไฟเป็นรถสาธารณะ มีผู้คนใช้บริการเป็นจำนวนมาก หากพนักงานรถไฟมีพฤติกรรมอย่างนี้ ถือเป็นอันตรายกับผู้โดยสารที่เป็นหญิงเดินทางตามลำพัง ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หากถูกข่มขืนความเสียหายอย่างนี้จะชดใช้อย่างไร และจะร้องเรียนกับทางการรถไฟแห่งประเทศไทยต่อไป
ก่อนหน้านี้เคยมีผู้โดยสารสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศบนขบวนรถไฟ กรณีนายวันชัย หรือ เกม อายุ 21 ปี ลูกจ้างบริษัทเอกชนรับจ้างทำความสะอาดบนขบวนรถ ก่อเหตุข่มขืน “ น้องแก้ม ” เด็กหญิงวัย 13 ปี บนตู้นอนรถไฟขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพฯ ก่อนจะโยนร่างน้องแก้ม ทิ้งทางหน้าต่างรถไฟในพื้นที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์และเสียชีวิต เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 5 ก.ค.57 ซึ่งศาลพิพากษาให้ลงโทษนายวันชัยด้วยการประหารชีวิต