รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ช่างโชคดีเหลือเกิน ดีใจที่มีวันนี้ได้โอกาสเรียนรู้กันและกัน "ริต้า" ควง "กรณ์" เปิดใจหลังเข้าพิธีวิวาห์สุดอลังการ ...
ภายหลังจากเข้าพิธีวิวาห์พร้อมทั้งจดทะเบียนสมรสเมื่อต้นปีไป นักแสดงสาวชีวิตราวกับเดินบนทุ่งดอกลาเวนเดอร์ "ศรีริต้า เจนเซ่น" และเจ้าบ่าว "กรณ์ ณรงค์เดช" ได้ควงกันมาเปิดใจในงานแถลงข่าวพิธีฉลองมงคลสมรสที่อบอวลไปด้วยความรักตลอดทั้งงาน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 ก.พ. ก่อนที่ทั้งคู่จะมีพิธีฉลองในช่วงเย็น ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยสองบ่าวสาวเผยความรู้สึกด้วยใบหน้าสุดอิ่มเอมในความหวานว่า
วันนี้เป็นยังไงบ้างเอ่ย ?
กรณ์ : “ตื่นเต้นมากครับ ยังมือสั่นอยู่เลย เราก็กังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้กระทบแค่บ้านเราแต่กระทบถึงคนทั่วโลก ก็กังวลในเรื่องของความปลอดภัยของแขกที่จะมาร่วมงาน จึงทำทุกมาตรการเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส โดยทางโรงแรมได้มีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทุกอย่างในห้อง ก่อนเข้างานก็จะมีพยาบาลวัดไข้ และมีเจลล้างมือไว้คอยบริการ”
ริต้า : “ตัวริต้าก็หนักใจมากๆ เพราะว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ และกระทบไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย เราก็ปรึกษากันว่าควรจะทำยังไงดี ควรจะต้องเลื่อนก่อนดีไหม แต่พอปรึกษากันลึกๆ แล้ว จะเลื่อนก็เป็นไปไม่ได้ เพราะทุกอย่างมีการจัดเตรียมไว้หมดแล้ว เลยรู้สึกว่าเราก็จัดงานมงคลสมรสที่ดีที่สุด เตรียมการอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าเชื้อ ทางโรงแรมดูแลเรื่องความสะอาดเป็นอย่างดี เราก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แต่ก็เป็นห่วงเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบเหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องเลือกที่จะมีความสุข ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ตามริต้าว่า สุดท้ายแล้วเป็นเรื่องของคนสองคน เป็นเรื่องความรักของเราทั้งคู่ ในเมื่อเราจะจัดงานวันที่ 29 ก.พ. ก็คือวันนี้ก็ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าทุกอย่างโอเค เราพยายามทำอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว”
รู้สึกยังไงบ้าง ?
ริต้า : “ก็ชื่นใจมากๆ เลยค่ะ ต้องขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่าน ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน ที่ยืนยันที่จะมาร่วมงาน มีหลายคนที่เดินทางไปประเทศเสี่ยง เขาก็ส่งข้อความแสดงความยินดีมา เท่านี้เราก็มีความสุขแล้ว ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้แล้วค่ะ”
วันที่ 4 เป็นวันหมั้น และจะจดทะเบียนสมรส ...
กรณ์ : “วันที่ 4 ก็เป็นฤกษ์ที่ท่านเจ้าคุณให้มาอันนั้นก็เป็นพิธีภายในครอบครัว ตอนแรกที่คุยกัน ว่างานหมั้นเราอยากให้เป็นพิธีเล็กๆ เป็นพิธีในครอบครัว คุยกันไปคุยกันมา สรุปเชิญแขกประมาณ 150 คน ตอนแรกก็บอกกับริต้าว่า เชิญแขกคนละครึ่งละกัน ไปมาไปมาเฉพาะญาติผมอย่างเดียวก็ปาไป 80 แล้ว (หัวเราะ) สรุปผมก็ได้มาประมาณ 110 คน อีก 40 คน ก็จะเป็นแขกของทางริต้า บรรยากาศก็เป็นแบบประเพณีไทย ก็มีคุณพ่อ พี่ๆ ทางครอบครัวและเพื่อนๆ ที่สนิทกันจริงๆ”
ได้รับคำอวยพรจากใครบ้าง ?
กรณ์ : “ผู้ใหญ่ให้พรเยอะมาก ก็ดีใจมาเพราะผู้ใหญ่ทุกคนที่มารดน้ำ เรารู้สึกได้เลยว่าทุกคนตั้งใจจริงๆ ไม่ได้รีบ ทุกคนให้พรแบบจริงจังและตัวเราก็ประทับใจมากรู้สึกที่ผู้ใหญ่หลายๆ ท่านเมตตาและเอ็นดูเราสองคน”
ริต้า : “ร้องไห้ตลอดเวลาคือมันซาบซึ้งและตัวริต้าเองก็รู้สึกว่า เราเป็นผู้หญิงที่โชคดีจังเลยที่รักเรามากๆ ครอบครัวของพี่กรณ์ก็น่ารักและให้การต้อนรับริต้าที่อบอุ่นมากๆ เราก็รู้สึกว่า เราเป็นผู้หญิงที่โชคดีจริงๆ ด้วยความรักที่เขามอบให้มันก็ทำให้เราซาบซึ้งมากๆ ก็ร้องไห้ไปทั้งวันเลย คือประทับใจมากๆ รวมถึงผู้ใหญ่ทุกท่านที่ตั้งใจมาร่วมงานวันที่ 4 และรู้สึกได้เลยถึงความตั้งใจของผู้ใหญ่ทุกคน”
มีคำสัญญาอะไรกับริต้าไหม ?
กรณ์ : “ผมก็บอกคุณแม่ริต้าว่าไม่ต้องห่วงเลยนะ จะดูแลให้ดีที่สุด เหมือนคุณแม่มั่นใจยกลูกสาวให้แล้ว ผมก็จะทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุด”
ริต้า : “คุณแม่ของคุณกรณ์ได้จากไปแล้ว เขาก็จะเป็นคนที่รักคุณแม่มากๆ ตอนนี้ก็มีคุณพ่อ แล้วก็พี่ชายของเขา เขาก็บอกริต้าว่า ให้ดูแลพี่กรณ์อย่างดี แล้วเขาก็ไม่ได้บอกแค่ว่า ให้เราดูแลเขาดีๆ นะ เขาจะบอกว่า มันเป็นเรื่องของเราสองคนแล้วนะต้องดูแลกันและกันดีๆ ไม่ว่าจะทะเลาะกัน หรือไม่พอใจกันก็ต้องคุยกันไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ขอให้เราต้องคุยกันในทุกๆ เรื่อง"
ต้องปรับตัวอะไรบ้างไหมในการใช้ชีวิต ?
กรณ์ : "มีปรับไปเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ก็เพิ่งย้ายมาอยู่คอนโดฯ ใหม่ก็จะเป็นเรื่องช่วยกันแต่งบ้าน ให้มันเข้าที่เข้าทาง"
สินสอดเยอะไหม ?
กรณ์ : "จริงๆ คือผมขออนุญาตให้โฟกัสเรื่องความรักมากกว่า อย่างเรื่องสินสอดก็ขอให้สมฐานะเขาแล้วกัน ให้เกียรติทางผู้หญิงที่ผมรัก เรื่องของตัวเลขขออนุญาตภายในครอบครัว"
ชื่นชมอะไรในตัวริต้าบ้าง ?
กรณ์ : "ก็อยากมีเซอร์ไพรส์บางที เขาพยามปรับตัวเป็นภรรยาที่น่ารักอย่างตอนเช้าๆ ก่อนผมไปทำงาน บางวันรีบตื่นก็มีเวลามาทำอาหารเช้าให้ น่ารัก ประทับใจ อร่อยครับ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ บางวันก็จะเป็นแซนด์วิชแฮมชีส อาหารสุขภาพก็มีเป็นแบบโทส"
ริต้า : “ฝึกอยู่ค่ะ จริงๆ แล้วพี่กรณ์เป็นคนที่ทานเก่ง เห็นแบบนี้เขาจะชอบหิวตอนเช้า พอมาถึงแล้วด้วยความที่เพิ่งย้ายมาคอนโดฯ ทั้งคู่ ก็เลยเพิ่งซื้ออุปกรณ์ทำอาหารง่ายๆ เครื่องปิ้ง กระทะ ทำเมนูง่ายๆ ที่เขาตื่นเช้ามาก่อนไปทำงานเขาสามารถทานได้ ถามว่าได้ลงคอร์สไหม ยังเลยค่ะ แต่ว่าอาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญของเขา อย่างน้อยก็ก่อนเขาออกไปทำงาน ให้เขาได้อิ่มก่อน"
กรณ์ : “เป็นคนเรื่องทานเรื่องใหญ่ ผมเป็นคนโมโหหิวง่าย"
ริต้า : “คนนี้โมโหหิวง่ายมาก ถ้าเกิดริต้ามาไม่ตรงเวลาทานข้าวเขาก็จะหงุดหงิดเพราะว่าหิว"
กรณ์ : "จริงๆ ก็เหมือนเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ เรารู้จักกันมาสักพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน 3 ปี ใกล้จะ 4 ปี ก็พออยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง มันก็ต้องมีสิ่งใหม่ๆ ที่ต้องปรับตัวไปกันเรื่อยๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีครับเป็นเรื่องใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน"
เรื่องทายาท คิดเอาไว้ว่ายังไง ?
กรณ์ : “ก็ได้คุยกันไว้ว่าจะปล่อยเป็นเรื่องของธรรมชาติ ถ้าดวงดีก็มาเร็วถ้าดวงกลางๆ ก็อาจจะมาช้าหน่อย แต่ก็มีการปรึกษาคุณหมอ เราก็อยากรู้ว่ามีออปชั่นอะไรบ้าง ถ้าเป็นเรื่องทายาทตอนนี้ก็ปล่อยเป็นเรื่องธรรมชาติก่อน”
ริต้า : “ขอชมความน่ารักของพี่กรณ์นิดหนึ่งนะคะ เขาก็พูดกับริต้าคำหนึ่งซึ่งน่ารักมากว่า เรื่องของลูกก็อยากให้เป็นเรื่องธรรมชาติ เขาไม่อยากให้ริต้าเครียดหรือกดดันเรื่องนี้ วันหนึ่งมีก็ถือเป็นความโชคดี แต่ถ้าไม่มา ก็ไม่ต้องไปเครียดหรือซีเรียส แต่แน่นอนเราก็อยากรู้ว่าการมีลูกต้องเตรียมตัวอะไรยังไง ก็มีไปปรึกษาแพทย์ มีกอนวิตามินบำรุง อะไรที่เราทำได้เตรียมตัวไว้ก่อนเช่นการออกกำลังกายให้แข็งแรง ให้เป็นเรื่องของธรรมชาติก่อน”
ตอนนี้เป็นภรรยาเต็มตัวแล้วยังรับงานในวงการเหมือนเดิมหรือเปล่า ?
ริต้า : “ได้ค่ะ เรื่องงานในวงการริต้าก็รับได้ปกติ มีงานติดต่อได้ (ยิ้ม) ไม่ได้หายไปไหนนะคะยังอยากรับงานปกติ บางอย่างที่ใช้ระยะเวลาถ่ายทำนานก็จะมีปรึกษาพี่กรณ์ ว่าเขาคิดยังไง โอเคไหม เพราะละครอาจจะใช้เวลาถ่ายทำนานนิดนึง แต่ตอนนี้ริต้าไม่มีละครค่ะ เคลียร์จบแล้ว”
แพลนฮันนีมูน ?
กรณ์ : “ฮันนีมูนตอนนี้ก็คงไปไหนลำบาก ทั่วโลก อย่างที่ทราบสถานการณ์กัน โชคดีที่ก่อนหน้านี้เราก็มีได้ไปเที่ยวเล็กๆ น้อยๆ กันมาบ้าง เดี๋ยวรอเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่อยมาแพลนเรื่องฮันนีมูนจริงจัง ตอนนี้ก็ฮันนีมูนที่กรุงเทพฯกันก่อน”
จดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ?
กรณ์ : “ก็พาไปทำบัตรประชาชนใหม่เรียบร้อยแล้วครับทุกวันนี้ก็เป็นนางศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ทำพาสปอร์ตใหม่เรียบร้อย”
ริต้า : “ใช้คำว่านางค่ะ จริงๆ เราจดทะเบียนสมรสตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. งานหมั้น เป็นฤกษ์ที่ดี มงคลมากๆ และยังไม่ได้เปลี่ยนบัตรประชาชน พี่กรณ์ก็พาไปเปลี่ยนเรียบร้อยตอนนี้ก็เป็นนาง”
คอนเซปต์การจัดงานวันนี้ ?
กรณ์ : “คอนเซปต์วันนี้ชื่อว่า the return to happiness ได้คุยกับทางออแกไนเซอร์ว่าอยากได้ที่มันแสดงถึงความเป็นเราทั้งสองคน อย่างตัวโครงสร้างต่างๆ ก็จะเห็นว่ามันเป็นตึก มาจากที่ผมทำงานพวกอสังหาริมทรัพย์ ทางริต้าเขาจะชอบอะไรที่เป็นสวน เป็นดอกไม้ ก็จะเอาทั้งสองอย่างมาผสมผสานกัน อีกอย่างนึงคืออยากให้มันออกมาดูน่ารัก อบอุ่น เหมือนเชิญแขกมาเลี้ยงฉลองที่สวนหลังบ้าน”
ริต้า : “ชุดเจ้าสาวก็จะมีทั้งหมด 3 ชุด อย่างชุดนี้เป็นความลับนะคะ”
กรณ์ : “ผมเพิ่งเคยเห็นชุดนี้เมื่อ 10 นาทีที่ผ่านมาเอง ตกใจในความใหญ่โตมโหฬารมาก (หัวเราะ)”
ริต้า : “พี่กรณ์ไม่เคยเห็นชุดนี้เลย เราเก็บเป็นความลับยกเว้นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ 2 ชุดใหญ่ของวันนี้เขาจะไม่ได้เห็น อย่างชุดตอนนี้เขาเห็นก็ตกใจมาก เขาก็คิดมาแล้วว่าชุดคงจะใหญ่ประมาณนึง แต่ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้”
กรณ์ : “ไม่คิดว่าจะใหญ่ถึงขนาดต้องใช้คนแบก 6 คน ชุดหนัก 30 กิโลฯ”
ริต้า : “ที่ต้องเก็บเป็นความลับเพราะอยากให้รู้สึกว่ามันมีมุมเซอร์ไพรส์เขาบ้าง ชอบไหมคะ (หันไปถาม)”
กรณ์ : “ชอบครับ”
ริต้า : “ชุดฉลองสมรสก็เป็นความลับเหมือนกัน ไม่มีใครเห็นมาก่อนเลย เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์ที่สุดแล้วเพราะการเก็บความลับเรื่องชุดนี่ยากมากๆ เลย เก็บไว้ไม่บอกใครมา 6 เดือน ไม่มีใครรู้เลย เป็นความลับจริงๆ อยากให้เขาเซอร์ไพรส์”
คำมั่นสัญญาที่ให้กัน ...
กรณ์ : “(เสียงเครือ) อยากจะขอบคุณเขาที่เข้ามาในชีวิตทั้งช่วงที่ดีและไม่ดี เขาก็อยู่เคียงข้างมาตลอด ดีใจที่ได้เรียกผู้หญิงคนนี้ว่าภรรยา (น้ำตาคลอ) และจะดูแลตลอดไป (หันไปจูบเจ้าสาว)
ริต้า : “ริต้าอยากให้ความเชื่อมั่นว่าริต้าจะรักเบบี๋ตลอดไปทั้งชีวิตของริต้า จะดูแลเบบี๋ให้ดีที่สุดไม่ว่าจะยามทุกข์ ยามสุข ไม่ว่าจะยามมี ยามไม่มี ริต้าก็จะดูแลเบบี๋อย่างนี้ตลอดไป”
