โฆษกสำนักงานสาธารณสุขรัฐวอชิงตัน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา แถลงเมื่อวันเสาร์ (29 ก.พ.) ว่า ผู้ป่วยชายชาวอเมริกันวัยประมาณ 50 ปี เสียชีวิตด้วยโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 เป็นรายแรกของประเทศ โดยผู้ตายซึ่งเสียชีวิตเมื่อเวลา 13.00 น. วันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่โรงพยาบาลในเขตคิง เคาน์ตี ไม่เคยเดินทางไปประเทศใดๆ ที่กำลังเป็นข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้
ข่าวการเสียชีวิตจากไวรัส โควิด-19 รายแรกในอเมริกา มีขึ้นหลังความปั่นป่วนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศตลอดสัปดาห์ และความวิตกลุกลามในกลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทั้งระดับชาติและระดับมลรัฐ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งมีผู้ติดเชื้อใน 46 ประเทศ รวมถึงกว่า 60 คนในสหรัฐ
ผู้ติดเชื้อในสหรัฐส่วนใหญ่เคยเดินทางไปประเทศจีน ซึ่งเป็นต้นแหล่งของการแพร่ระบาด แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อในประเทศอย่างน้อย 4 ราย ได้รับเชื้อโรคจากการแพร่เชื้อในประเทศ นอกจากนั้น ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ ซีดีซี (The U.S. Centers for Disease Control and Prevention : CDC) ออกแถลงการณ์เมื่อคืนวันศุกร์ ระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ 3 ราย ไม่สามารถระบุต้นแหล่งการติดเชื้อได้ โดยทั้ง 3 รายอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐออริกอน และรัฐวอชิงตัน
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และนายอะเล็ก อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐ กล่าวว่า ชาวอเมริกันไม่ควรตื่นตระหนกหลังมีผู้เสียชีวิตรายแรก พวกเขาบอกด้วยว่า แม้ว่าจะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น แต่สำหรับชาวอเมริกันแล้ว ความเสี่่ยงยังอยู่ในระดับต่ำ
ทรัมป์บอกว่า คนที่มีสุขภาพดีอยู่แล้ว จะสามารถฟื้นตัวและหายได้อย่างเด็ดขาด
สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 2,941 คน ส่วนในจีนแผ่นดินใหญ่ มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 79250 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 2,835 คน